head prakardsod




































































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 97
1
ตรวจอาการด้วยตนเอง: แมงมุมกัด

แมงมุมโดยทั่วไปจะไม่มีพิษ เมื่อถูกกัดจะเป็นเพียงแผลบวมแดงไม่ปวด

การดูแลตนเอง

ใช้ยาหม่องหรือครีมสเตียรอยด์ทา

หมายเหตุ แมงมุมที่มีพิษ เช่น แมงมุมดำ (black widow spider) ซึ่งพบในแถบลาตินอเมริกา (ไม่พบในประเทศไทย) อาจมีพิษต่อประสาท ทำให้อ่อนแรง เวียนศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้อเกร็งและปวด อาจหายใจลำบาก และช็อกถึงเสียชีวิตได้ ต้องฉีดเซรุ่มแก้พิษ ถ้าสงสัยถูกแมงมุมมีพิษต่อย ให้ทำการปฐมพยาบาลแบบเดียวกับถูกงูกัด


การปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกงูกัด

การปฐมพยาบาลเป็นสิ่งที่ต้องกระทำหลังถูกงูกัดทันทีก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาล มักจะกระทำโดยผู้ป่วยเอง ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง คำแนะนำในการให้การปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกงูกัด สำหรับบุคคลเหล่านี้ ได้แก่

1. ใช้เชือก ผ้า หรือสายยางรัดแขนหรือขา ระหว่างแผลงูกัดกับหัวใจ (เหนือรอยเขี้ยว 2-4 นิ้วฟุต) เพื่อป้องกันมิให้พิษงูถูกดูดซึมเข้าร่างกายโดยเร็ว ให้รัดแน่นพอที่จะหยุดการไหลเวียนของเลือดดำ ควรคลายเชือกทุก ๆ 15 นาที โดยคลายนานครั้งละ 30-60 วินาที จนกว่าจะถึงสถานพยาบาล

2. เคลื่อนไหวแขนหรือขาส่วนที่ถูกงูกัดให้น้อยที่สุด ควรจัดตำแหน่งของส่วนที่ถูกงูกัดให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ (เช่น ห้อยเท้าหรือมือส่วนที่ถูกงูกัดลงต่ำ) ระหว่างเดินทางไปยังสถานพยาบาล อย่าให้ผู้ป่วยเดิน ควรให้ผู้ป่วยนั่งรถหรือแคร่หาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของพิษงู

3. ควรดูให้รู้แน่ว่าเป็นงูอะไร แต่ถ้าไม่แน่ใจควรบอกให้คนอื่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุช่วยตีงูให้ตาย และนำไปยังสถานพยาบาลด้วย (อย่าตีให้เละจนจำลักษณะไม่ได้)

4. อย่าให้ผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาดองเหล้า หรือกินยากระตุ้นประสาท รวมทั้งชา กาแฟ

5. อย่าใช้ไฟหรือเหล็กร้อนจี้ที่แผลงูกัด และอย่าใช้มีดกรีดแผลเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เลือดออกมาก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถูกงูที่มีพิษต่อเลือดกัด) หรืออาจตัดถูกเส้นเอ็นหรือเส้นประสาท รวมทั้งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

6. ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ (จากงูที่มีพิษต่อประสาท) ให้ทำการเป่าปากช่วยหายใจไปตลอดทางจนกว่าจะถึงสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด

7. สำหรับบาดแผลให้ใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดบาดแผล ถ้ารู้สึกปวดแผลให้กินพาราเซตามอล ห้ามให้แอสไพริน เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น




2
เมนูสร้างรายได้ ข้าวต้มปลา น้ำซุปใส หอมหวาน อาหารสตรีทฟู้ดดีต่อสุขภาพมีคุณค่าทางโภชนาการ

ข้าวต้มปลาที่เรียบง่ายแต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ อาหารจานนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นสำหรับมื้อเช้า มื้อเย็นหรือแม้แต่มื้อดึกเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการผสมผสานความเบาสบายเข้ากับรสชาติอันเข้มข้นของอาหารไทย ข้าวต้มปลาเป็นเมนูสตรีทฟู้ด โดยเฉพาะในตอนกลางคืนหรือช่วงเช้าตรู่เป็นอาหารที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายท้องและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ประวัติความเป็นมา
ข้าวต้ม มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยได้นำเมนูนี้เข้ามาด้วย ซึ่งในสมัยก่อนจะนิยมทานเป็นข้าวต้มขาวกับข้าวสวย หรือที่เราเรียกว่า “ข้าวต้มกุ๊ย”

ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีบันทึกว่าพระองค์ทรงนำอาหารทะเล เช่น ปลา กุ้ง และปลาหมึกมาทำเป็นข้าวต้มและตั้งชื่อเมนูนี้ว่า “ข้าวต้มสามกษัตริย์” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของข้าวต้มเครื่องในปัจจุบันนั่นเอง

ข้าวต้มปลา คืออะไร?
ข้าวต้มปลา แปลว่า “ข้าวต้มปลา” เป็นซุปร้อนๆ ที่ทำจากข้าวสวยสุกในน้ำซุปใส เสิร์ฟพร้อมปลาชิ้นนุ่มๆ ซึ่งมักจะเป็นปลากะพง ปลาเก๋า หรือปลากะพงแดง ข้าวต้มปลามีรสชาติอ่อน หอม และย่อยง่าย ต่างจากอาหารไทยที่ทอดหรือปรุงรสจัดจ้าน จึงเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับคนรักสุขภาพและอบอุ่น

องค์ประกอบของข้าวต้มปลา
ข้าวต้มปลาที่ดีนั้นไม่ได้มีแค่ข้าวกับเนื้อปลาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้รสชาติสมบูรณ์แบบ ได้แก่
เนื้อปลา: มักใช้ปลาที่เนื้อแน่นและไม่มีกลิ่นคาว เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า หรือ ปลาเต๋าเต้ย โดยจะนำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วลวกในน้ำซุปเดือดๆ เพื่อให้เนื้อปลานุ่มและหวาน
น้ำซุป: เป็นหัวใจสำคัญของข้าวต้มปลา ส่วนใหญ่จะทำจากน้ำซุปกระดูกปลาหรือกระดูกหมูที่เคี่ยวจนได้ที่ ทำให้ได้น้ำซุปที่หอมหวาน กลมกล่อม
เครื่องเคียง: เพื่อเพิ่มรสชาติและดับกลิ่นคาว มักจะใส่ ตั้งฉ่าย ข่าหั่นแว่น ขิงซอย ขึ้นฉ่าย และ กระเทียมเจียว เพิ่มความหอม
ข้าว: นิยมใช้ข้าวหอมมะลิเก่า เพราะเมื่อนำมาต้มจะได้เมล็ดข้าวที่สวย ไม่เละจนเกินไป

การผสมผสานนี้ทำให้ได้อาหารจานที่ทั้งเบาและอิ่ม เหมาะสำหรับใครก็ตามที่อยากทานอาหารเพื่อความสบายใจ
ทำไมคนท้องถิ่นถึงชอบมัน?
ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการ – มีน้ำมันน้อยและสบายท้อง มักแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่สบายหรือผู้ที่กำลังมองหาอาหารคลีน
เมนูที่ทานได้ทุกเวลา – รับประทานในตอนเช้าก่อนไปทำงาน เป็นอาหารเย็นง่ายๆ หรือแม้กระทั่งเป็นของว่างตอนดึกหลังจากออกไปเที่ยวกลางคืน
ประเพณีอาหารริมทาง – พ่อค้าแม่ค้าจะเตรียมข้าวต้มปลาในหม้อร้อนๆ และกลิ่นหอมๆ ที่ทำให้รู้สึกสบายใจมักดึงดูดลูกค้ามาแต่ไกล

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ข้าวต้มปลาเป็นเมนูที่ให้โปรตีนสูงจากเนื้อปลา ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย นอกจากนี้ในเนื้อปลายังมีกรดไขมันดีอย่าง โอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ หากมีโอกาสลองแวะชิมข้าวต้มปลาตามร้านสตรีทฟู้ดในย่านเก่าแก่ อย่างเยาวราชหรือเจริญกรุงดูสักครั้ง รับรองว่าจะติดใจในรสชาติที่หอมหวาน กลมกล่อมไม่เหมือนใคร

ลองได้ที่ไหน
แม้ว่าข้าวต้มปลาจะทำกินเองที่บ้านได้ แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของข้าวต้มปลาจะเด่นชัดในร้านอาหารริมทางหรือร้านอาหารเล็กๆ ที่เป็นธุรกิจครอบครัวในประเทศไทย ย่านเยาวราชในกรุงเทพฯ ตลาดเช้า และตลาดกลางคืนทั่วประเทศ มักมีแผงขายข้าวต้มที่ทำจากโปรตีนหลากหลายชนิด ทั้งปลา หมู หรือกุ้ง ข้าวต้มปลาโดดเด่นด้วยความสดและรสชาติที่กลมกล่อม

อาหารที่ทำให้จิตใจอบอุ่น
ข้าวต้มปลาอาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าผัดไทยหรือต้มยำ แต่ข้าวต้มปลาก็เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของอาหารไทย เรียบง่าย อบอุ่น และรสชาติกลมกล่อม อาหารริมทางจานโปรดนี้แสดงให้เห็นว่าอาหารไทยไม่ได้มีแค่รสชาติจัดจ้านเท่านั้น แต่ยังเน้นความสมดุล คุณค่าทางโภชนาการ และความสบายใจในทุกๆ วันอีกด้วย


3
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


4
จัดฟันบางนา: อันตราย จากการจัดฟันแฟชั่น

ในปัจจุบันการจัดฟัน ถือเป็นการทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมาก เพราะการจัดฟันสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณีไม่ว่าจะเป็น ฟันยื่น ฟันซ้อน ฟันเก หรือปัญหาฟันห่าง ฟันล้ม นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาฟันได้แล้ว การจัดฟัน ยังถือเป็นเทรนด์ยอดฮิตในกลุ่มวัยรุ่นที่มักจะเข้ารับการจัดฟัน เพื่อให้มีเสน่ห์หรือช่วยทำให้รู้สึกมั่นใจได้ และการจัดฟันยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของเราให้ดีขึ้นได้อีกด้วย แต่ในปัจจุบันด้วยความที่การจัดฟันเป็นที่นิยมมาก จึงทำให้มีการจัดฟันแฟชั่นเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อช่องปากและฟันเป็นอย่างมาก นอกจากจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาฟันแล้ว ยังส่งผลเสียและทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพฟันอีกด้วย และวันนี้เราจะมาพูดถึงอันตรายจากการจัดฟันแฟชั่น เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการจัดฟันอย่างถูกต้องเพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย

สำหรับการจัดฟันแฟชั่น  เป็นการนำเครื่องมือไปติดในช่องปากเพื่อเลียนแบบการจัดฟันที่ทำโดยทันตแพทย์ แต่ไม่ได้ใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพและไม่ได้ผ่านขั้นตอนการจัดฟันที่ถูกต้องจากทันตแพทย์ ซึ่งการติดเหล็กจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ถูกสุขอนามัยจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมา เช่น เป็นแผลในช่องปาก ฟันผุ มีกลิ่นปาก หรือติดเชื้อ เป็นต้น  เพราะการที่เราเข้ารับการจัดฟันแฟชั่นไม่ได้ทำโดยทันตแพทย์ จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาตามมา สำหรับเหตุผลที่หลายคนเลือกหันไปจัดฟันแฟชั่น อาจจะเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดฟันค่อนข้างสูง หลายคนจึงเลือกใช้วัสดุจัดฟันที่ทำขึ้นมาเลียนแบบซึ่งอาจหาซื้อได้ง่าย

โดยการจัดฟันแฟชั่นที่พบได้ทั่วไปมีหลายลักษณะ ร้านจัดฟันแฟชั่นบางแห่งอาจใช้เครื่องมือแบบติดแน่นเป็นโลหะทรงสี่เหลี่ยมที่มีร่องสำหรับใส่ลวดและคล้องยางสีต่างๆ คล้ายอุปกรณ์จัดฟันจริง กระทั่งใช้อุปกรณ์แบบถอดได้ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องมือคงสภาพฟันหลังการจัดฟัน หรืออาจดัดแปลงวัสดุใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่อุปกรณ์ทางทันตกรรมมาใช้จัดฟัน ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดและเป็นอันตรายมาก  เพราะผู้ที่ทำการจัดฟันแฟชั่น ส่วนใหญ่จะไม่มีความรู้ทางทันตกรรม โดยอาจไม่เตรียมความพร้อมในช่องปากให้ผู้เข้ารับการรักษาก่อนจัดฟัน เช่น ไม่อุดฟันซี่ที่ผุ ไม่ขูดหินปูน เป็นต้น และอุปกรณ์หรือวัสดุจัดฟันที่ใช้ก็อาจไม่สะอาด ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมาได้ในอนาคต

ซึ่งอันตรายที่มากับการจัดฟันแฟชั่น อาจจะส่งผลให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแฟชั่นเกิดโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก เนื่องจากการจัดฟันแฟชั่น เป็นการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เราทำความสะอาดช่องปากลำบากและผิดวิธี เมื่อแปรงฟันไม่สะอาด มีเศษอาหารสะสม จึงเกิดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบบวมแดงตามมา ซึ่งปัญหาฟันผุนี้ยังทำให้มีกลิ่นปากได้อีกด้วย

นอกจากนี้ เหล็กจัดฟันที่นำมาใช้ในการจัดฟันแฟชั่น ยังเป็นเพียงลวดธรรมดา ซึ่งหากใช้ไปนานๆ อาจจะขึ้นสนิมได้ และถ้าหากลวดที่ใช้อาจกดหรือทิ่มเหงือก ทำให้เกิดแผลที่กระพุ้งแก้ม แผลในช่องปากแบบเรื้อรังและอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ ส่งผลไปถึงสุขภาพโดยรวมได้ ดังนั้นหากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันหรืออยากแก้ไขปัญหาฟันด้วยการจัดฟัน ควรที่จะเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพราะถ้าหากเราเลือกจัดฟันแบบแฟชั่น และใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เกิดปัญหามาได้อีกมากมาย

 ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ มีความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ควรจะทำความสะอาดช่องปากและฟันให้ดี และถ้าหากเข้ารับการจัดฟัน สามารถปรึกษาทีมทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีวามเชี่ยวชาญ ผ่านการรับรองทางด้านทันตกรรม จึงทำให้มั่นใจได้ว่า คุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

5
หมอออนไลน์: ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด (Deep vein thrombosis/DVT)

หลอดเลือดดำบริเวณแขนขา บางครั้งอาจเกิดลิ่มเลือด (blood clot หรือ thrombus) ขึ้นภายในหลอดเลือด ซึ่งอาจเกิดได้ทั้งในหลอดเลือดดำส่วนผิว* และส่วนลึก

ที่สำคัญคือ การมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นที่หลอดเลือดดำส่วนที่อยู่ลึกในกล้ามเนื้อ (ส่วนใหญ่เกิดที่บริเวณขา ส่วนน้อยอาจเกิดที่บริเวณแขน) เรียกว่า ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงเนื่องจากลิ่มเลือดดังกล่าวหลุดลอยเข้าไปในปอด

ภาวะนี้มักพบในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เลือดแข็งตัวง่ายหรือไหลเวียนช้า ดังนั้นจึงพบบ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด อ้วน สูบบุหรี่ กินยาเม็ดคุมกำเนิด หรือไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายอยู่นาน ๆ หญิงตั้งครรภ์หรือหลังคลอดบุตรใหม่ ๆ

โรคนี้พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่จะพบมากในคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ และมักเกิดกับผู้ที่เข้าพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หรือได้รับการผ่าตัด

บางรายอาจเกิดภาวะนี้โดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน

*การเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำบริเวณผิว มักจะทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดร่วมด้วย เรียกว่า หลอดเลือดดำส่วนผิวอักเสบมีลิ่มเลือด (superficial thrombophlebitis) ภาวะนี้มีอันตรายน้อย และมักหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นลิ่มเลือดขนาดเล็ก และไม่หลุดลอยไปที่อื่น อาการที่พบ คือ หลอดเลือดดำที่มีลิ่มเลือดจะมีลักษณะคลำได้เป็นเส้นแข็ง ออกแดง ร้อน และเจ็บ ให้การรักษาตามอาการ ได้แก่ ให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ประคบด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ สวมใส่ถุงเท้าชนิดยืด หรือพันด้วยผ้าพันแผลชนิดยืด ยกเท้าสูงเวลานอนหรือนั่ง


สาเหตุ

ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือดที่บริเวณขา อาจมีสาเหตุหรือมีปัจจัยเสี่ยง เช่น

    การไม่ได้ลุกขึ้นเดินเป็นเวลานานเกิน 3 ชั่วโมงขึ้นไป เช่น นั่งรถหรือเครื่องบินระยะทางไกล
    การนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงนาน ๆ เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัด กระดูกหัก หรือเป็นโรคหัวใจ
    ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก ผู้ป่วยแขนขาเป็นอัมพาต หัวใจวาย หรือ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
    ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งบางชนิดที่ทำให้เลือดแข็งตัวได้ง่าย (เช่น มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่) หรือมีการใช้ยาเคมีบำบัด เช่น darbepoetin, epoetin, tamoxifen เป็นต้น
    ผู้หญิงที่กินยาเม็ดคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนทดแทนสำหรับหญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งทำให้เลือดแข็งตัวง่าย
    หญิงตั้งครรภ์หรือหลังคลอดใหม่ ๆ (ไม่เกิน 6 สัปดาห์) ซึ่งจะทำให้มีแรงดันสูงในหลอดเลือดดำที่บริเวณเชิงกรานและขา
    ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีภาวะขาดน้ำหรือสูบบุหรี่
    ผู้ที่รูปร่างอ้วน
    การมีภาวะบาดเจ็บต่อหลอดเลือดดำ เช่น การผ่าตัดหลอดเลือด หรือฉีดสารระคายเคืองเข้าหลอดเลือด
    การมีความผิดปกติที่ทำให้เลือดจับเป็นลิ่มง่าย
    มีประวัติว่าพ่อแม่พี่น้องมีภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด หรือภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอด

ภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือดที่บริเวณแขน อาจมีสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยง เช่น

    ที่พบได้บ่อย คือ เกิดจากการทำหัตถการที่กระทบต่อหลอดเลือดดำที่บริเวณแขน เช่น การใส่สายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลาง (central venous catheter), การใส่ตัวคุมจังหวะหัวใจ (cardiac pacemaker) เป็นต้น
    การบาดเจ็บ เช่น กระดูกไหปลาร้าหรือกระดูกต้นแขนหัก กล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น
    การเล่นกีฬาที่ออกแรงมาก ๆ (เช่น ว่ายน้ำ เล่นเทนนิส ยกน้ำหนัก มวยปล้ำ พายเรือ) ทำให้หลอดเลือดดำที่คอและไหล่ตีบ กระตุ้นให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำได้ มักพบในนักกีฬาอายุน้อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะ Paget-Schroetter syndrome (PSS) หรือนักกีฬาที่แข็งแรงดีก็ได้
    นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยแบบเดียวกับภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือดที่บริเวณขา เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็งหรือได้รับยาเคมีบำบัด การมีความผิดปกติที่ทำให้เลือดจับเป็นลิ่มง่าย หรือมีประวัติพ่อแม่พี่น้องมีภาวะเลือดจับเป็นลิ่มง่าย การสูบบุหรี่ การไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายอยู่นาน ๆ เป็นต้น

อาการ

ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดหน่วง ๆ ตึง ๆ หรือเจ็บปวดที่ขา (บริเวณน่องหรือต้นขา) หรือที่แขน ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่ง อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แขนหรือขาข้างที่ปวดมีอาการบวมร่วมด้วย

ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญ ได้แก่ ลิ่มเลือดหลุดลอยเข้าสู่หัวใจและไปอุดตันในหลอดเลือดแดงปอด เรียกว่า ภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอด ซึ่งอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตอย่างกะทันหันได้

ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือดที่บริเวณขา อาจเกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงหลอดเลือดดำไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง (chronic venous insufficiency) เนื่องจากหลอดเลือดดำขาถูกทำลาย เลือดคั่งอยู่ในหลอดเลือดดำ ไม่อาจไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้ตามปกติ ทำให้เกิดอาการปวดเท้า เท้าบวม

นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือดที่บริเวณขา หากปล่อยไว้นาน ๆ อาจเกิดการทำลายหลอดเลือดดำหรือลิ้นเล็ก ๆ ในหลอดเลือดดำขา (ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดไหลกลับลงเท้า) ทำให้เลือดไม่อาจไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้ตามปกติ เลือดคั่งอยู่ในหลอดเลือดดำ มีอาการปวดเท้า เท้าบวมเรื้อรัง ผิวหนังบริเวณข้อเท้าด้านในกลายเป็นสีน้ำตาลแดง เป็นแผลง่าย หลอดเลือดขอดที่ขา เรียกว่า "ภาวะเลือดไปเลี้ยงหลอดเลือดดำไม่เพียงพอแบบเรื้อรัง (chronic venous insufficiency)" หรือ "กลุ่มอาการหลังเกิดลิ่มเลือด (post-thrombotic syndrome)"


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบดังนี้

แขนหรือขาข้างที่ปวด มีลักษณะบวม มีสีแดงหรือคล้ำ กดถูกเจ็บ คลำดูรู้สึกร้อนกว่าปกติ บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ ชีพจรเต้นเร็ว

การตรวจโดยจับปลายเท้ากระดกขึ้น ทำให้รู้สึกเจ็บน่องมากขึ้น เรียกว่า อาการโฮแมน (Homan’s sign) ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 50 ของผู้ป่วย

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจพิเศษ เช่น อัลตราซาวนด์ (duplex ultrasonography), ถ่ายภาพรังสีหลอดเลือดดำด้วยการฉีดสารทึบรังสี (venography), ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า/เอกซเรย์คอมพิวเตอร์

ในกรณีที่สงสัยว่าอาจมีภาวะสิ่งหลุดอุดตันหลอดเลือดแดงปอดก็จะทำการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล โดยให้ผู้ป่วยนอนพักและยกเท้าสูง 6 นิ้ว ให้สารกันเลือดเป็นลิ่ม ได้แก่ เฮพาริน (heparin) ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แล้วให้กินยาเม็ดวาร์ฟาริน (warfarin) ต่อ ซึ่งอาจต้องกินนาน 3-6 เดือน ยานี้ทำให้เลือดออกได้ง่าย จำเป็นต้องตรวจเลือดดู clotting time แล้วปรับขนาดยาให้เหมาะสม

การรักษาอื่น ๆ ได้แก่ การพันด้วยผ้าพันแผลชนิดยืด หรือการสวมใส่ถุงน่องชนิดยืด (elastic stocking) เพื่อแก้ไขอาการบวมและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ อาจต้องฉีดยาละลายลิ่มเลือด (เช่น streptokinase หรือ tPA) เข้าทางหลอดเลือดดำ หรือทำการผ่าตัดเอาลิ่มเลือดออก

กรณีที่ไม่สามารถใช้สารกันเลือดเป็นลิ่ม แพทย์อาจสอดใส่ "ตัวกรอง (filter)" ไว้ในท่อเลือดดำส่วนล่าง (inferior vena cava) เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ่มเลือดหลุดลอยเข้าปอด

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักหายเป็นปกติและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน บางรายอาจมีอาการกำเริบซ้ำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นที่แขน

การใส่ตัวกรองป้องกันสิ่งหลุดเข้าหัวใจกระจายไปที่ปอด


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดหน่วง ๆ ตึง ๆ หรือเจ็บบริเวณขาหรือแขนข้างหนึ่ง หรือมีอาการบวมที่ข้อเท้า เท้า ต้นขา หรือแขนข้างหนึ่ง ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นภาวะหลอดเลือดดำมีลิ่มเลือด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ดูแลรักษา กินยา ปฏิบัติตัว และติดตามการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ
    ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุหรือบาดแผล
    หลีกเลี่ยงการซื้อยากินเอง เพราะอาจมีผลทำให้เกิดปฏิกิริยากับยาที่แพทย์ใช้รักษาอยู่

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีเลือดออก หรือมีจ้ำเขียวหรือรอยห้อเลือดที่ผิวหนัง
    มีอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ไอเป็นเลือด ใจหวิวใจสั่น หรือลุกนั่งมีอาการหน้ามืดจะเป็นลม
    ขาดยาหรือยาหาย
    มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1.  ถ้าน้ำหนักเกินหรืออ้วน ควรลดน้ำหนัก

2.  ไม่สุบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์จัด

3.  หมั่นออกกำลังกาย

4.  หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่กับที่นาน ๆ ควรลุกขึ้นเดินทุก ๆ ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง

5.  ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร (ประมาณ 6-8 แก้ว) อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ

6.  หมั่นตรวจเช็กสุขภาพ และถ้ามีโรคประจำตัว (เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็ง) ควรดูแลรักษาอย่างจริงจัง

7.  สำหรับผู้ที่นั่งรถหรือเครื่องบิน ควรป้องกันไม่ให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ โดยการปฏิบัติดังนี้

    ถ้านั่งเครื่องบินหรือรถไฟ ควรลุกขึ้นเดินในห้องโดยสารทุก ๆ ชั่วโมง ถ้านั่งรถ ทุก ๆ ชั่วโมงควรหยุดรถ และเดินไปมารอบรถสักครู่
    ขณะนั่งอยู่กับที่ หมั่นบริหารขาโดยการงอ-เหยียดข้อเท้าขึ้นลงเป็นครั้งคราว คราวละ 10 ครั้ง และควรบริหารขาให้บ่อยขึ้นในกรณีที่ไม่สามารถลุกขึ้นเดินในห้องผู้โดยสารหรือหยุดรถที่ขับได้ทุกชั่วโมง
    หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าหรือเข็มขัดรัดเอว
    ดื่มน้ำมาก ๆ  และหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ

8. ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยอัมพาต คนอ้วน ผู้หญิงที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนทดแทน ควรมีการออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกาย (เช่น เดิน) อยู่บ่อย ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ (อย่าให้ร่างกายมีภาวะขาดน้ำ) หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หมั่นบริหารขาโดยการงอ-เหยียดข้อเท้าขึ้นลง

9.  สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เคยมีภาวะหลอดเลือดดำมีลิ่มเลือดมาก่อน มีภาวะเลือดจับเป็นลิ่มง่าย ผู้ที่ต้องรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก ผู้ป่วยโรคหัวใจหรืออัมพาต เป็นต้น ถ้าจำเป็นต้องรับการผ่าตัดหรือเข้าพักรักษาตัว (นอนบนเตียง) ในโรงพยาบาลนาน ๆ ให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างจริงจัง ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาให้สารกันเลือดจับเป็นลิ่มป้องกัน

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่รับสารกันเลือดเป็นลิ่ม อาจมีเลือดออกได้ง่าย ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุหรือบาดแผล และถ้ามีอาการเลือดออก (เช่น จ้ำเขียวหรือรอยห้อเลือดตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหลมาก ไอ อาเจียน หรือถ่ายปัสสาวะ/อุจจาระเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระดำ) ควรรีบไปโรงพยาบาล

2. อาการแขนหรือขาบวมข้างหนึ่ง อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ที่สำคัญคือ ทางเดินน้ำเหลืองอุดกั้น ซึ่งอาจเกิดจากมะเร็ง ภาวะแทรกซ้อนจากการฉายรังสี การติดเชื้อ (เช่น โรคเท้าช้าง) สาเหตุเหล่านี้มักไม่มีอาการเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม เมื่อพบอาการแขนหรือขาบวมข้างหนึ่งก็ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

3. โดยปกติ ลิ่มเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดดำไม่สามารถหลุดลอยไปอุดตันในหลอดเลือดสมอง (จะเกิดขึ้นได้ต้องเป็นลิ่มเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดแดง) อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในรายที่มีผนังหัวใจรั่วโดยกำเนิด (patent foramen ovale) อยู่ก่อน ลิ่มเลือดอาจหลุดเข้าไปในระบบหลอดเลือดแดง ลอยไปอุดตันหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ได้ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยสำหรับภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกมีลิ่มเลือด

6
รถรับจ้างใกล้ฉัน นครสวรรค์ รับขนย้ายทั่วไป ราคาถูก บริการคุณภาพ ที่คุณควรเลือก

รถรับจ้างขนของนครสวรรค์

ปัจจุบัน รถรับจ้างขนของ เป็นที่ต้องการอย่างมากในสังคมไทย เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจและการขยายตัวของเมือง ทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้าและทรัพย์สินต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนต้องการความสะดวกสบายในการขนย้าย ทั้งจากการย้ายบ้านไปยังที่ใหม่ การขนส่งสินค้าในเชิงพาณิชย์ หรือแม้กระทั่งการขนย้ายของต่างๆ นอกจากนี้ บริการรถรับจ้าง ยังตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายในพื้นที่ใกล้ๆ หรือการขนส่งข้ามจังหวัด ด้วยความสะดวกในการเรียกใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์

บริการรถรับจ้างขนของนครสวรรค์ มีความสำคัญต่อธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าในเวลาที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยมีบริการที่มีมาตรฐาน รวมถึงรถที่หลากหลายขนาดและประเภท

    รถกระบะรับจ้างนครสวรรค์
    รถสี่ล้อใหญ่รับจ้างนครสวรรค์
    รถหกล้อรับจ้างนครสวรรค์
    รถสิบล้อรับจ้างนครสวรรค์
    รถเทรลเลอร์รับจ้างนครสวรรค์
    รถเฮี๊ยบรับจ้างนครสวรรค์

ขนส่ง ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในด้าน บริการรถรับจ้างขนของนครสวรรค์ โดยเรามีทีมงานมืออาชีพที่มีความชำนาญและประสบการณ์ในการขนย้ายสินค้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าสินค้าของตนจะถูกขนส่งอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ด้วยการให้บริการที่มีมาตรฐานและความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด สามารถช่วยลดความกังวลให้กับลูกค้าในเรื่องความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายสินค้าขนาดเล็กหรือใหญ่ เราพร้อมที่จะให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อให้การขนย้ายของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายที่สุด พร้อมทั้งทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการของเรา

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ ขนย้ายทั่วไป

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้รถรับจ้างเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบันคือ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานที่มีความรวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผู้คนมักจะมีการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้านใหม่ การเช่าหรือซื้อบ้านใหม่ หอพัก อพาร์เม้น รวมถึงการย้ายสำนักงานหรือร้านค้า ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องการบริการขนย้ายที่มีความรวดเร็วและสะดวกสบาย ในด้านธุรกิจ การแข่งขันในตลาด บริการขนย้าย ก็เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ให้บริการต้องพัฒนาคุณภาพและบริการให้ดียิ่งขึ้น เช่น การจัดให้มีรถรับจ้างหลายประเภท ตั้งแต่ รถกระบะ รถหกล้อ จนถึง รถสิบล้อ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการ และยังมีการพัฒนาระบบติดตามการขนส่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าอีกด้วยค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ ราคาถูก

ในด้านของราคารถรับจ้าง การตั้งราคาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า ราคาที่เหมาะสมและโปร่งใสจะช่วยสร้างความไว้วางใจและกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกใช้บริการมากขึ้น ความหลากหลายของราคา การแข่งขันในตลาด โปรโมชันและแพ็กเกจพิเศษ ความโปร่งใสในราคา คุณภาพและความปลอดภัย สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้าเลือกสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ ความเหมาะสมของงบประมาณ ที่ตั้งไว้ได้อย่างคุ้มค่าค่ะ

   
รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ ไปต่างจังหวัด

บริการที่ครอบคลุมการขนย้ายทั่วประเทศ หมายถึง ความสามารถของบริษัทให้บริการรถรับจ้างในการดำเนินการขนส่งสินค้าหรือการขนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภายในจังหวัดเดียวกันหรือข้ามจังหวัด โดยมี เครือข่ายการให้บริการที่กว้างขวาง สามารถขนส่งที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ตั้งแต่เมืองใหญ่จนถึงพื้นที่ชนบท ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งของไปยังที่หมายได้อย่างสะดวกและรวดเร็วค่ะ

   
รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน

หากคุณกำลังมองหา รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ ที่มีคุณภาพและไว้ใจได้ การเลือกใช้บริการ รถรับจ้างนครสวรรค์ ใกล้ฉัน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะย้ายบ้าน ขนย้ายสินค้า หรือขนส่งของใช้ต่างๆ การบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และใส่ใจในทุกรายละเอียด คือสิ่งที่ลูกค้าทุกคนควรได้รับ บริการ รถรับจ้างนครสวรรค์ เน้นการให้บริการที่สะดวก ประหยัดเวลา และครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อให้การขนย้ายเป็นเรื่องง่าย และลดความยุ่งยากสำหรับคุณ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานและความเชี่ยวชาญในด้านการขนย้าย เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าทุกคน ด้วยราคาที่คุ้มค่าและโปร่งใส พร้อมบริการที่มีมาตรฐาน คุณสามารถไว้วางใจให้ ขนส่ง เป็นส่วนหนึ่งในทุกการขนย้ายของคุณ สนใจบริการรถรับจ้าง ติดต่อเราได้เลยวันนี้

7
เครื่องมือจัดฟันเด็ก ภายนอกปาก ทำงานอย่างไร

การจัดฟันในเด็ก เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ใช้แก้ไขปัญหาฟันในเด็ก ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กจะมีโอกาสฟันผุได้มาก เนื่องจากเด้กชอบรับประทานอาหารที่มีความหวาน เช่น ขนม ลูกอม หรือน้ำหวาน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุในเด็ก ยิ่งถ้าเด็กไม่ใส่ใจในเรื่องของการความสะอาดช่องปากและฟัน ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันได้ง่าย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กๆให้มาก ควรปลูกฝังให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดปัญหาฟันผุ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับช่องปาก นอกจากนี้ เด็กที่มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น ชอบดูดขวดนม ชอบดูนิ้ว ก็มีผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันในอนาคตได้

เพราะการที่เด็กมรพฤติกรรมดูดนิ้ว อาจจะส่งผลต่อรูปร่างของฟันได้ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่หมั่นสังเกตพฤติกรรมและหาวิธีทางแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าวของลูก สำหรับการเข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ตั้งแต่ อายุ 4 ปี โดยไม่รอให้ฟันน้ำนมหลุดออกหมด ถ้าเป้นเด็กในวัย 4 ปี หรืออยู่ในช่วงที่ไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ได้ไม่ดีนัก จะใช้วิธีการจัดฟันในเด็ก โดยใช้เครื่องมือ EF Line ในการรักษา เครื่องมือ EF Line ยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างของใบหน้า ช่วยปรับกล้ามเนื้อทำให้เด็กมีโครงสร้างของใบหน้าที่สวย และไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ในการจัดฟันในเด็ก ก็ยังมีเครื่องมือภายนอกปาก ซึ่งมีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ๆ

ซึ่งวันนี้เราจะพามารู้จักกับเครื่องมือการจัดฟันในเด็ก ภายนอกปาก ซึ่งมีด้วยกัน 2 ประเภท และมีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็คือ Headgear เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเด็กที่มีปัญหาขากรรไกรบนยื่นมากผิดปกติ เมื่อเทียบกับขากรรไกรล่าง โดยจะใส่เครื่องมือที่เรียกว่า Headgear ที่ทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน นั่นเอง ต่อมาอีกประเภทหนึ่งก็คือ Protection Face Mask ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาขากรรไกรล่างยื่นมากผิดปกติ เมื่อเทียบกับขากรรไกรบน เป็นการดึงขากรรไกรบนมาข้างหน้า และยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง

โดยเครื่องมือจัดฟันภายนอกปากจะมุ่งเน้นแก้ไขโครงสร้างขากรรไกรของเด็กเป็นหลัก เนื่องจากเด็กจะต้องใส่ในขณะนอนหลับ เฉลี่ยประมาณ12-14 ชั่วโมงต่อคืน ดังนั้น การใช้เครื่องมือดังกล่าว จึงต้องได้รับความร่วมมือจากเด็กค่อนข้างมาก แต่หากเป็นเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้จะมุ่งเน้นการแก้ไขการปรับแต่งขากรรไกรบ้างหรือแก้ไขความผิดปกติของฟัน ส่วนการจัดฟันที่ใช้เครื่องมือแบบถอดได้นั้น จะใช้ในกรณีที่ เด็กมีฟันล่างคร่อมฟันบน แต่ไม่มีปัญหาที่โครงสร้างของใบหน้า ก็จะใส่เครื่องมือถอดได้ในช่องปากเพื่อทำการผลักฟันล่างออกมากรณีที่ฟันบนยื่นมากๆ  จะใส่เครื่องมือที่หน้าตาคล้ายกับรีเทนเนอร์ เพื่อดันฟันหน้าบนให้เคลื่อนที่ไปด้านหลัง และมีตัวระนาบเอียง เพื่อกระตุ้นให้ขากรรไกรล่างมีการเคลื่อนที่มาข้างหน้านั่นเอง

ซึ่งการเลือกใช้เครื่องมือการจัดฟันในเด็ก ทันตแพทย์ก็จะเป้นพิจารณาว่า เด็กมีปัญหาในเรื่องใด และเหมาะสมที่จะใช้เครื่องมือการจัดฟันอย่างไร เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากทที่สุด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาวได้ เพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย และมีบุคลิกภาพที่มั่นใจด้วย ดังนั้น ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กจึงมีความสำคัญมาก อย่าคิดว่าเด็กกำลังมีฟันน้ำนมอยู่ รอให้โตจนฟันแท้ขึ้นครบจึงค่อยมาดูแล เพราะกว่าจะถึงตอนนั้น ก็อาจจะสายไปแล้วก็ได้ เพราะฟันน้ำนมของเด็ก ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้โดยตรง พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลให้มากเป็นพิเศษ

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านทันตกรรมในเด็ก และมีประสบการณ์ทางด้านการจัดฟฟันมาอย่างยาวนาน จึงสามารถให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้อง ตามหลักวิชาการ เพราะเราอยากพ่อแม่ทุกคนใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่ลูกจะได้เติบโตไปเป้นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี

8
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


9
รถรับจ้างราคาถูก ขนของทุกขนาดด้วยความปลอดภัย บริการรถรับจ้างสุราษฎร์ธานี

ความต้องการ ขนส่งสินค้า หรือการ ขนย้ายที่พัก ในสุราษฎร์ธานีมีความต้องการเป็นอย่างมาก ทำให้บริการรถรับจ้างขนของกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่มีความต้องการในการขนส่งสินค้าของทุกขนาดไปยังจุดหมายต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ บริการรถรับจ้างสุราษฎร์ธานี บริการรถกระบะ รถหกล้อ ไม่เพียงแต่ให้บริการการขนส่งที่สะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังเน้นการความปลอดภัยอย่างยิ่งให้ลูกค้าทุกท่าน

   
รถที่ได้มาตรฐานและพนักงานที่มีประสบการณ์

บริการรถรับจ้างสุราษฎร์ธานี มุ่งมั่นในการให้บริการที่มีมาตรฐานสูงที่สุด เราคัดสรรรถที่มีความสามารถในการขนส่งทุกขนาด ทั้งจากสินค้าขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยรถทุกคันได้รับการตรวจสภาพประจำและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถของเรามีความพร้อมในการขนส่งทุกๆ ชนิดของสินค้า

ทีมงานของเราเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่ดีในการจัดการและขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มอาหารสด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสินค้าที่ต้องการการจัดการพิเศษ เรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นในการให้บริการที่ปฟลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

   
ระบบติดตามและการควบคุม

เพื่อให้คุณสามารถติดตามสถานะของสินค้าของคุณได้อย่างทันท่วงที เราใช้ระบบติดตามที่ทันสมัย ที่ทำให้คุณสามารถตรวจสอบที่ตั้งและสถานะของสินค้าได้ในทุกขณะ นอกจากนี้ ทีมงานของเรายังมีระบบควบคุมและการดูแลรักษาที่เข้มงวด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าสินค้าของคุณจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

   
บริการลูกค้าที่ประทับใจ

เราเข้าใจความสำคัญของการให้บริการลูกค้าที่ดีที่สุด ทางเรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอนของการขนส่ง ไม่ว่าคุณจะต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามเรื่องค่าบริการ หรือมีความกังวลใด ๆ เกิดขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ประทับใจและตอบสนองความต้องการของคุณในทุกๆ ด้าน

ในทำนองเดียวกัน บริการรถรับจ้างสุราษฎร์ธานี ไม่เพียงแค่เสนอบริการที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ แต่ยังเน้นความปลอดภัยและการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณมั่นใจในการขนส่งสินค้าของคุณทุกครั้งที่เลือกใช้บริการของเรา
รถกระบะ รถหกล้อ เหมาะกับการขนย้ายอะไรบ้าง

   
รถกระบะ

รถกระบะมักถือเป็นเครื่องพาหนะที่เหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าหรือวัตถุที่มีขนาดเล็กถึงกลาง ด้วยลักษณะที่เล็กกระทัดรัดและสามารถทำงานในพื้นที่จำกัดได้ดี นี่คือบางประการที่รถกระบะเหมาะกับการขนย้าย

    เครื่องใช้ทั่วไป : รถกระบะเหมาะสำหรับการขนย้ายเครื่องใช้ทั่วไป เช่น เฟอร์นิเจอร์เล็ก ของเล่น หรือของในบ้านที่มีขนาดเล็ก
    วัสดุก่อสร้าง : สำหรับการขนย้ายวัสดุก่อสร้างเช่น ปูน ทราย หรือวัสดุก่อสร้างที่มีน้ำหนักไม่มาก
    อุปกรณ์กลางแจ้ง : ถ้าคุณมีอุปกรณ์กลางแจ้ง เช่น จักรยาน อุปกรณ์กายภาพ หรือเครื่องมือสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง รถกระบะเป็นตัวเลือกที่ดี
    สินค้าการค้า : สำหรับธุรกิจเล็ก ๆ หรือผู้ประกอบการที่ต้องการขนย้ายสินค้าน้อย ๆ รถกระบะเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์
    ขนส่งของจากร้านค้า : รถกระบะเหมาะกับการขนย้ายสินค้าจากร้านค้าไปยังบ้านของลูกค้า โดยเฉพาะถ้ามีปริมาณสินค้าน้อย
    ขนย้ายของเล็กในการย้ายบ้าน : สำหรับการย้ายของเล็ก ๆ หรือวัตถุส่วนตัวต่าง ๆ รถกระบะเป็นเลือกที่สะดวก

อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่ารถกระบะมีขนาดจำกัด ดังนั้น ควรตรวจสอบน้ำหนักและขนาดของวัตถุที่คุณต้องการขนย้ายเพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่และความทนทานเพียงพอสำหรับงานที่กำลังทำ

   
รถหกล้อ

รถหกล้อ เป็นพาหนะที่มีความแข็งแรงและสามารถขนย้ายสินค้าหนักๆ ได้มาก นี่คือบางประการที่รถหกล้อเหมาะกับการขนย้าย

    วัสดุก่อสร้างหนัก : รถหกล้อเหมาะสำหรับการขนย้ายวัสดุก่อสร้างที่มีน้ำหนักมาก เช่น คอนกรีต และเหล็ก
    เครื่องจักรและอุปกรณ์โรงงาน : สำหรับการขนย้ายเครื่องจักรหนัก อุปกรณ์โรงงาน หรือชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่
    สินค้าขนาดใหญ่ : รถหกล้อเหมาะสำหรับการขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่ เช่น เครื่องตกแต่งห้อง ชิ้นงานศิลปะ หรือโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่
    วัตถุหนักในการขนย้ายสินค้าส่วนบุคคล : สำหรับการย้ายบ้านหรือขนย้ายวัตถุส่วนบุคคลที่มีขนาดใหญ่ รถหกล้อเป็นเครื่องมือที่ดี
    วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่ต้องการการปกป้อง : สำหรับการขนย้ายวัสดุก่อสร้างหรืออุปกรณ์ที่ต้องการการปกป้องจากสภาพอากาศ รถหกล้อมักมีที่ปิดท้ายหรือคลุมด้วยโครงสร้างที่ป้องกันจากสภาพอากาศ
    สินค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการขนย้าย : รถหกล้อมีความเร็วและประสิทธิภาพในการขนย้ายที่สูง ทำให้เป็นเลือกที่ดีสำหรับการขนย้ายสินค้าในระยะทางที่ใหญ่
    สินค้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือในการขนย้าย : รถหกล้อมักมีความเสถียรและความแข็งแรงที่สูง ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการขนย้ายสินค้าที่มีค่าและต้องการความรักษาความปลอดภัย

ในการใช้รถหกล้อสำหรับการขนย้าย ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมระยะทางและประสิทธิภาพทั้งหมด เพื่อให้การขนย้ายสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ขนย้ายของในสุราษฎร์ธานีที่ปลอดภัยและสะดวก! บริการรถรับจ้างขนของของเราพร้อมให้บริการคุณ ด้วยรถที่ทันสมัยและทีมงานที่มีประสบการณ์ ทำให้ทุกการขนย้ายเป็นเรื่องง่าย ๆ และมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย คุณสามารถติดต่อ บริการขนย้ายของสุราษฎร์ธานี ได้ทุกเมื่อ ทำให้การขนย้ายของคุณเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

10
ความลับที่ควรรู้ ! ของ อาหารเหลว อาหารปั่นผสม อาหารสายยาง

เนื่องจาก​ อาหารเหลว อาหารปั่น ​เป็น​อาหาร​ที่​จะ​ช่วย​ผู้​ป่วย​ที่ไม่สามารถรับประทาน​อาหาร​ทางปาก​เอง​ได้​ เพื่อต้องการให้ผู​้ป่วยได้รับสารอาหาร​เหมือนคน​ปกติ​ ได้คิดค้น​สูตรอาหารปั่นได้ตรงตาม​มาตรา​ฐาน​ที่โรงพยาบาล​กำหนด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วย​มีภาวะโภชนาการ​ดีขึ้น ร่่างกายฟื้นคืนสู่สภาพได้เร็วขึ้น มีความต้านทานโรคแทรกซ้อน​ได้ และยังสามารถลดอัตราการเสียชีวิต​ของ​ผู้ป่วย​ลงได้อย่างมาก

มีนักโภชนาการที่มีความชำนาญเฉพาะ​ด้าน ควบคุมการผลิต​อย่างใกล้ชิด​ โดยเฉพาะ​ในเรื่อง​ความสะอาด​ของ​วัตถุดิบ​รวมทั้งภาชนะที่ใช้ในการประกอบอาหารทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเป็นพาหนะ​ของเชื้อโรค​ต่างๆ มีการชั่งตวงส่วนประกอบของอาหารทุกชนิดตรงตามคำสั่งของแพทย์ทุกขั้นตอน

ดังนั้น ไม่ต้องกังวลอาหาร​ปั่นผสมซึ่งมีการสำรวจและเป็นที่ยอมรับของผู้ป่วยมีความพึงพอใจ 100%


การผลิตที่ได้มาตรฐานของอาหารปั่นผสม

กระบวนการผลิตอาหารปั่นผสมต้องใช้เครื่องมือที่สะอาด เพราะเนื่องจากเราใช้ในการผลิตอาหารจึงต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นหลัก จึงใช้เครื่องมือและเครื่องจักรที่ได้มาตรฐานและทันสมัยในการผลิต

อาหารปั่นผสม จึงมีประสิทธิภาพและรับประทานง่าย เวลาที่ต้องใช้อาหารผู้ป่วยทางสายยางจะไม่ติดขัดและสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้เราใช้กรรมวิธีการผลิตที่คำนึงถึงความสะอาด อาหารมีความละเอียด และใช้การปรุงเป็นต้มสุก จึงไร้กังวลได้เลยว่า อาหารมีความปลอดภัยและสะอาด

ทางเราใช้วัตถุดิบที่สะอาด โดยหลักๆเป็นอาหารทางการเกษตร ปราศจากสารเคมี เมื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารที่สะอาดและปลอดภัยมากที่สุด


รสชาติ สี และกลิ่น ของ อาหารเหลว อาหารปั่นผสม !

เป็นที่ทราบกันดีอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ต้องใช้ อาหารเหลว อาหารปั่นผสมในการดูแลรักษาผู้ป่วยว่า อาหารปั่นผสมนั้นมีสีและหน้าตาที่ไม่ค่อยน่ารับประทาน และกลิ่นที่ไม่ค่อยจะหอมนัก เนื่องจากเป้นนำวัตถุดิบหลายๆชนิดมาปั่นรวมกัน จึงทำให้มีหน้าตาที่ไม่ค่อยน่ารับประทาน

จึงออกแบบและคิดสูตรที่จะทำให้การรับประทานอาหารปั่นผสมนั้น ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยสีที่น่ารับประทาน และกลิ่นที่หอม ทำให้ผู้ป่วยรับประทานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เราจะใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ในการปรุงอาหารเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

ทั้งนี้ยังคำนึงถึงเรื่องของการให้พลังงาน และความเหมาะสมของอาหารที่ผู้ป่วยจะได้รับ ถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นปัจจัยหลักของการผลิตอาหารปั่นผสม ที่ต้องคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะอาด หรือประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับ รับรองได้ว่าทางเราจะดูแลในเรื่องของอาหารปั่นผสมของผู้ป่วยได้ดีเลยทีเดียว


ห่วงใยในตัวผู้ป่วย ! อาหารปั่น​ผสม​

ถ้าคุณห่วงใยผู้ป่วย​กลับรับสารอาหาร​ไม่ครบถ้วนต้องปรึกษา โดยเฉพาะผัูป่วย​ที่​มี​ปัญหา​ใน​การ​ทำ​งาน​ของ​กระเพาะอาหาร​และลำใส้หรือมีการตัดกระเพาะ​อาหาร​แลลำใส้

เรามีด้านโภชนาการเพื่อบรรเทา​อาการ​ของ​ผู้ป่วย​ ซึ่งเน้นอาหาร​ที่ใหพลังงาน โปร​ตีน​ วิตามิน และเกลือแร่ควบคู่​ไปกับการวางแผน​ทางโภชนาการ​ที่เหมาะสม​กับความต้องการสารอาหารและชนิดอาหาร​ที่ผู้ป่วย​พึงพอใจ​ใน​รสชาติ

11
Doctor At Home: โรคเชื้อราในช่องปาก (Oral Thrush หรือ Oral Candidiasis)

โรคเชื้อราในช่องปาก (Oral Thrush หรือ Oral Candidiasis) เป็นภาวะติดเชื้อที่เกิดจากการเจริญเติบโตมากเกินไปของเชื้อราในกลุ่ม Candida (ส่วนใหญ่คือ Candida albicans) ซึ่งเป็นเชื้อราที่ปกติก็อาศัยอยู่ในช่องปากของเราอยู่แล้ว แต่เมื่อสมดุลของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป เชื้อราจึงเพิ่มจำนวนและก่อให้เกิดโรคได้

โรคนี้มักไม่เป็นอันตรายร้ายแรงในคนที่มีสุขภาพดี แต่สามารถทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายอย่างมาก และอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง


อาการของโรคเชื้อราในช่องปาก

อาการที่เด่นชัดที่สุดของโรคเชื้อราในช่องปากคือ:

คราบสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองอ่อน บนลิ้น กระพุ้งแก้ม เพดานปาก เหงือก หรือต่อมทอนซิล คราบเหล่านี้มักมีลักษณะคล้ายคราบน้ำนมบูดหรือฝ้าขาว

เมื่อลองขูดหรือเช็ดคราบขาวออกเบา ๆ จะพบว่าเนื้อเยื่อใต้คราบนั้นเป็น สีแดง อักเสบ และอาจมีเลือดออกซิบ ๆ

อาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ภายในช่องปาก ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาในการเคี้ยว กลืนอาหาร หรือดื่มน้ำ

รสชาติเปลี่ยนไป หรือสูญเสียการรับรสชาติ

รู้สึกเหมือนมีสำลี หรือมีอะไรค้างอยู่ในปาก

มุมปากแตก แห้ง หรือเป็นรอยแดงอักเสบ (เรียกว่า Angular Cheilitis)

ในผู้ที่ใส่ฟันปลอม อาจมีอาการปวด แสบ แดง บริเวณที่ฟันปลอมสัมผัส


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

การติดเชื้อราจะเกิดขึ้นเมื่อสภาวะในช่องปากเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เชื้อรา Candida เจริญเติบโตได้ดีกว่าแบคทีเรียตัวอื่น ๆ โดยปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อย ได้แก่:


ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง:

ผู้สูงอายุ และทารก (เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์)

ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV/AIDS หรือผู้ป่วยมะเร็งที่กำลังรักษาด้วยเคมีบำบัด

ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน


การใช้ยาบางชนิด:

การใช้ ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เป็นเวลานาน ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในช่องปากลดลง

การใช้ ยาสเตียรอยด์แบบพ่น (เช่น ยาพ่นสำหรับโรคหอบหืด) โดยไม่ได้บ้วนปากตามหลังการใช้

การดูแลช่องปากที่ไม่เหมาะสม:

การใส่ ฟันปลอม ที่ไม่พอดี หรือไม่ได้ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและถอดพักในช่วงกลางคืน

การมีสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี

ภาวะปากแห้ง (Dry Mouth)

แนวทางการรักษาและการป้องกัน


การรักษา

การรักษาโรคเชื้อราในช่องปากจะต้องไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับยาที่ถูกต้อง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ ยาต้านเชื้อรา (Antifungal Medication) ดังนี้:

ยาทา/อม (Topical): เช่น ยาในรูปแบบเจล, น้ำยาบ้วนปาก หรือยาอม ที่ใช้ทาหรือกลั้วในช่องปากเป็นเวลาประมาณ 7-14 วัน

ยาชนิดรับประทาน (Oral): ใช้ในกรณีที่อาการรุนแรง ไม่ตอบสนองต่อยาเฉพาะที่ หรือผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ยาที่ใช้บ่อย เช่น Fluconazole หรือ Itraconazole


การป้องกัน

รักษาความสะอาดช่องปาก: แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำอย่างถูกวิธี

ดูแลฟันปลอม: ทำความสะอาดฟันปลอมทุกวันด้วยน้ำยาทำความสะอาดฟันปลอม และควรถอดฟันปลอมออกพักขณะนอนหลับ

บ้วนปากหลังใช้ยา: หากคุณใช้ยาสเตียรอยด์แบบพ่น ควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังพ่นยา

ควบคุมโรคประจำตัว: หากเป็นเบาหวาน ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

หยุดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น

หากคุณสงสัยว่ามีอาการของโรคเชื้อราในช่องปาก ควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมครับ/ค่ะ

12
8 ที่เที่ยวไทยปลายฝนต้นหนาว ใกล้กรุงเทพ ขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมง ธรรมชาติสวย

ช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติสวยงามและอากาศเย็นสบายกำลังดี เหมาะกับการเดินทางไปพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ในรัศมีขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมง นี่คือ 8 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ที่คุณสามารถเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ได้:

ลำดับ   สถานที่ท่องเที่ยว                               จังหวัด                             จุดเด่นของปลายฝนต้นหนาว

1   อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่               นครราชสีมา/ปราจีนบุรี           ป่าไม้เขียวขจี อากาศหนาวเย็น มีโอกาสเห็นทะเลหมอกยามเช้า และสัตว์ป่าหายาก

2   วังน้ำเขียว                                   นครราชสีมา                   ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งโอโซนอันดับต้น ๆ ของไทย อากาศบริสุทธิ์ ชมวิวทิวเขา และสวนดอกไม้สวย ๆ

3   เขื่อนขุนด่านปราการชล & เขาช่องลม   นครนายก                 วิวอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ หลังฝนตกใหม่ ๆ จะได้เห็นทุ่งหญ้าสีเขียวที่เขาช่องลม และมีหมอกปกคลุม

4   อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน            เพชรบุรี              อุทยานฯ ที่ใหญ่ที่สุดในไทย จุดชมวิวพะเนินทุ่งจะมีทะเลหมอกที่สวยงามมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว

5   จุดชมวิวเขากระโจม                            ราชบุรี            ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปชมทะเลหมอกยามเช้าที่อำเภอสวนผึ้ง วิวป่าเขาเรียงตัวสุดสายตา

6   อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง                           สุพรรณบุรี   บรรยากาศเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยภูเขาและผืนน้ำ สามารถกางเต็นท์หรือพักแพริมน้ำได้ เหมือนเป็น "ปางอุ๋ง" แห่งสุพรรณบุรี

7   อุทยานแห่งชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า       สระบุรี   ที่ตั้งแคมป์ริมน้ำยอดนิยม ใกล้กรุงเทพฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสั้น ๆ ท่ามกลางป่าที่อุดมสมบูรณ์

8   สวนผึ้ง                                    ราชบุรี   ภูเขาสลับซับซ้อน อากาศดีตลอดปี โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้สัมผัสสายหมอกยามเช้า และมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์


รายละเอียดเพิ่มเติม

1. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (นครราชสีมา/ปราจีนบุรี)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง

กิจกรรม: เดินป่า, ชมน้ำตก (เหวสุวัต, เหวนรก), ส่องสัตว์ยามค่ำคืน, ชมวิวทะเลหมอกที่จุดชมวิวต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงนี้จะอากาศหนาวเย็นสบายมาก


2. วังน้ำเขียว (นครราชสีมา)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง

กิจกรรม: ชมสวนดอกไม้ (เช่น ฟลอร่า พาร์ค), ชมวิวทิวทัศน์ที่เขาแผงม้า, เยี่ยมชมไร่องุ่น, หรือพักผ่อนในรีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติ


3. เขื่อนขุนด่านปราการชล & เขาช่องลม (นครนายก)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง

กิจกรรม: ล่องเรือเข้าไปชม เขาช่องลม ซึ่งช่วงปลายฝนจะมีทุ่งหญ้าสีเขียวขจีและลำธารไหลผ่าน ดูเหมือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย และเป็นช่วงที่อากาศกำลังดีสำหรับการเดินเที่ยว


4. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (เพชรบุรี)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง

กิจกรรม: ชมทะเลหมอกที่ จุดชมวิวพะเนินทุ่ง (ต้องตรวจสอบช่วงเวลาเปิด-ปิดและสภาพถนนกับอุทยานฯ ก่อนเดินทาง), ล่องเรือในอ่างเก็บน้ำ, ดูนก หรือตั้งแคมป์ริมทะเลสาบ


5. จุดชมวิวเขากระโจม (ราชบุรี)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง ถึงอำเภอสวนผึ้ง

กิจกรรม: ตื่นเช้าเพื่อพิชิตยอดเขาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกเหนืออำเภอสวนผึ้ง เป็นจุดที่อากาศเย็นและเป็นธรรมชาติที่แท้จริง


6. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง (สุพรรณบุรี)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2.5 ชั่วโมง

กิจกรรม: พายเรือ, พักผ่อนบนแพ หรือกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศเงียบสงบ และรายล้อมด้วยภูเขาหินปูน


7. อุทยานแห่งชาติเจ็ดคด - โป่งก้อนเส้า (สระบุรี)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2 ชั่วโมง

กิจกรรม: กางเต็นท์แคมป์ปิ้งริมน้ำ มีลำธารและอ่างเก็บน้ำ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติและเดินป่าศึกษาเส้นทางสั้น ๆ


8. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย (สระบุรี)

ระยะทางขับรถ: ประมาณ 2 ชั่วโมง

กิจกรรม: ชมความงามของน้ำตก 7 ชั้นที่น้ำจะเยอะเป็นพิเศษในช่วงปลายฝน ทำให้ธรรมชาติรอบข้างมีความสดชื่นและเขียวชอุ่ม

13
ข้อมูลโรคข้อเคล็ด/ข้อแพลง (Sprain) ข้อเท้าแพลง (Ankle sprain)

ข้อเคล็ดข้อแพลง คือ ภาวะผิดปกติที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ข้อกระดูกเกิดความเสียหายต่อเอ็นกระดูก (ligament) ซึ่งเป็นมัดของเนื้อเยื่อเส้นใย (fibrous tissue) ที่ยึดเชื่อมระหว่างกระดูก 2 ชิ้น ตรงบริเวณข้อต่อต่าง ๆ

ภาวะนี้พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ มักเกิดจากอุบัติเหตุขณะเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือทำกิจวัตรประจำวัน ทำให้ข้อเกิดการบิด หมุน หรือพลิกมากเกินจนเอ็นกระดูกเสียหาย

ข้อที่พบบาดเจ็บได้บ่อยมาก ได้แก่ ข้อเท้า (เรียกว่า "ข้อเท้าแพลง" หรือ "ข้อเท้าพลิก")

นอกจากนี้อาจพบการบาดเจ็บที่ข้อมือ ข้อเข่า  ข้อไหล่  ข้อนิ้วมือ

สาเหตุ

เกิดจากเอ็นกระดูก (ligament) ตรงบริเวณข้อกระดูกถูกยืดออกมากเกินปกติหรือฉีกขาด เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรืออุบัติเหตุ

ปัจจัยเสี่ยงของการบาดเจ็บจนทำให้ข้อแพลง ได้แก่ การทำกิจกรรมในสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยง (เช่น การเดินหรือวิ่งในที่มืด บนพื้นผิวที่ขรุขระ เปียกหรือลื่น หรือบนพื้นต่างระดับ การก้าวขึ้นลงบันได) กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงหรืออ่อนล้า ไม่ได้ทำการอบอุ่นร่างกายและยืดเส้นยืดสายก่อนออกกำลังกาย การสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม (เช่น รองเท้าที่ไม่พอดีกับเท้าหรือไม่เหมาะกับกิจกรรมที่ทำ) การขาดสติ ความมึนเมา ความประมาทเลินเล่อ

สำหรับข้อเท้าแพลง นอกจากสาเหตุดังกล่าวแล้ว ยังอาจเกิดจากการหกล้ม ก้าวพลาด ตกส้นสูง หรือเท้าพลิก ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกิน เท้าผิดรูป หรือเคยบาดเจ็บที่ข้อเท้ามาก่อน อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดข้อเท้าแพลงได้ง่ายขึ้น


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเจ็บที่ข้อหลังได้รับบาดเจ็บ โดยจะเจ็บเวลาเคลื่อนไหวข้อ หรือใช้นิ้วกดถูกบริเวณที่บาดเจ็บจะรู้สึกเจ็บ และในรายที่เป็นรุนแรงอาจมีอาการข้อหลวม

อาการจะรุนแรงมากน้อยขึ้นกับระดับความรุนแรง ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่

ระดับที่ 1 รุนแรงเล็กน้อย เอ็นกระดูก (ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเส้นใยหรือ fibrous tissue) มีการยืดออกมากเกินปกติ เกิดความเสียหายเล็กน้อย ข้อที่บาดเจ็บมีอาการปวดเล็กน้อย กดถูกเจ็บเล็กน้อย อาจบวมเล็กน้อยหรือไม่บวมเลย ผู้ป่วยยังสามารถขยับข้อหรือใช้งานข้อได้เป็นปกติ

ระดับที่ 2 รุนแรงปานกลาง เอ็นกระดูกมีการฉีกขาดเพียงบางส่วน (ส่วนใหญ่มักฉีกออกไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเส้นใย) ข้อที่บาดเจ็บมีอาการปวดและบวมค่อนข้างมาก กดถูกเจ็บ ขยับข้อหรือใช้งานข้อได้ค่อนข้างลำบาก

ระดับที่ 3 รุนแรงมาก เอ็นกระดูกมีการฉีกขาดตลอดทั้งเส้น หรือหลุดออกจากกระดูกที่เคยยึดข้อไว้ ข้อที่บาดเจ็บมีอาการปวดและบวมมาก ไม่สามารถขยับข้อหรือใช้งานข้อได้

สำหรับข้อเท้าแพลง ถ้ารุนแรงเล็กน้อย จะมีอาการปวดเล็กน้อยเวลาเคลื่อนไหว หรือกดถูกเจ็บที่บริเวณข้อเท้าที่แพลง ไม่มีอาการบวมหรือบวมเพียงเล็กน้อย สามารถลงน้ำหนักเท้าได้ เดินได้ปกติ

ถ้ารุนแรงปานกลาง จะมีอาการบวมและฟกช้ำร่วมด้วย ลงน้ำหนักเท้าไม่ค่อยได้ เพราะจะรู้สึกปวดทำให้เดินลำบาก

ถ้ารุนแรงมาก จะมีอาการปวด บวม และฟกช้ำมาก ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือลงน้ำหนักเท้าได้ เพราะจะปวดมากทำให้เดินไม่ได้

ข้อเท้าแพลงส่วนใหญ่จะพบอาการผิดปกติ (ปวด บวม) เฉพาะที่ตาตุ่มด้านนอก (ด้านนิ้วก้อย) แต่ถ้าพบความผิดปกติ (ปวด บวม) ที่ตาตุ่มทั้งด้านนอกและด้านใน (ด้านนิ้วโป้ง) มักเป็นภาวะที่รุนแรง


ภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่เป็นรุนแรง จะไม่สามารถขยับข้อหรือใช้งานข้อได้ เคลื่อนไหวลำบาก หรือเดินลำบาก ต้องพักการใช้งานนานเป็นสัปดาห์ ๆ ถึงเป็นเดือน ๆ

ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษา หรือได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก อาจทำให้ข้อมีอาการปวดเรื้อรัง หรือบวมเรื้อรัง เอ็นกระดูกข้อต่อไม่แข็งแรงอย่างเรื้อรัง เสี่ยงต่อการเกิดข้อแพลงกำเริบซ้ำซาก และข้ออักเสบ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

ตรวจพบข้อมีลักษณะบวม กดถูกเจ็บ อาจพบว่าข้อที่บวมมีลักษณะแดง คลำดูอาจรู้สึกว่าร้อนกว่าปกติ อาจพบรอยเขียวคล้ำหรือฟกช้ำเนื่องจากหลอดเลือดฝอยแตกมีเลือดออก

ในรายที่รุนแรงอาจตรวจพบว่าข้อหลวม


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ทำการรักษาและให้คำแนะนำผู้ป่วยในการปฏิบัติตัว เพื่อลดอาการปวดและบวม ได้แก่

    ประคบด้วยความเย็นทันทีหลังได้รับบาดเจ็บ เพื่อลดอาการปวดและบวม โดยการใช้น้ำแข็งใส่ถุงพลาสติก หรือเจลประคบเย็น (ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ควรใช้ผ้าห่อป้องกันผิวหนังได้รับอันตรายจากความเย็น) หรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบ หรือแช่ข้อที่บาดเจ็บ (เช่น ข้อเท้าที่แพลง) ในภาชนะบรรจุน้ำเย็น หรือน้ำก๊อกใส่น้ำแข็ง นานครั้งละ 15-20 นาที (อย่าใช้เวลาสั้นกว่านี้อาจไม่ได้ผล หรือนานกว่านี้อาจทำให้ผิวหนังได้รับอันตรายจากความเย็น) ควรทำการประคบซ้ำ ๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง ตลอดทั้งวันตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั่งเข้านอนตอนกลางคืน ทำอย่างต่อเนื่องในระยะ 48-72 ชั่วโมงแรกหลังบาดเจ็บ (ในระยะนี้ไม่ควรประคบด้วยความร้อน อาจทำให้บวมมากขึ้น)
    ใช้ผ้าพันแผลชนิดยืด (elastic bandage) พันรอบข้อที่บาดเจ็บเพื่อลดบวม โดยเริ่มพันจากส่วนปลาย (ส่วนที่อยู่ใต้ข้อ หรือที่ไกลจากหัวใจมากที่สุด) ขึ้นมา ระวังอย่าให้รัดแน่นจนเลือดไปเลี้ยงปลายมือหรือปลายเท้าไม่ได้ ควรคลายผ้าให้หลวมหากพบว่ามีอาการปวดมากขึ้น หรือมีอาการบวมหรือชาบริเวณที่อยู่ข้างใต้ที่พันผ้า ควรพันนาน 2-3 วัน หรือจนกว่าจะยุบบวม อาจถอดผ้าพันออกในช่วงเข้านอนตอนกลางคืน แต่ควรใช้หมอนหนุนยกส่วนที่บาดเจ็บให้สูงกว่าระดับหัวใจ
    ยกข้อที่แพลงให้สูงกว่าระดับหัวใจ เช่น
    - ข้อเท้าแพลง/ข้อเข่าแพลง เวลานอนก็ใช้หมอนรองเท้าให้สูง หรือเวลานั่ง ควรยกข้อเท้าวางบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง (ระวังอย่านั่งห้อยเท้า อาจทำให้บวมมากขึ้นได้)
    - ข้อมือแพลง/ข้อนิ้วมือแพลง ควรยกข้อมือ/ข้อนิ้วมือให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจโดยใช้ผ้าคล้องคอ และอย่าใช้ข้อมือข้างนั้นทำงาน (เช่น ยกของ ซักผ้า)
    ควรพักข้อที่แพลงให้มากที่สุด จนกว่าอาการปวดจะทุเลา ซึ่งอาจกินเวลาประมาณ 2-3 วัน เมื่ออาการทุเลาแล้วก็ค่อย ๆ เคลื่อนไหว และบริหารข้อนั้นให้คืนสู่สภาพปกติ

สำหรับข้อเท้าแพลง/ข้อเข่าแพลง พยายามเดินให้น้อยที่สุด และเวลาเดินอาจใช้ไม้ค้ำยันช่วยให้ไม่ต้องลงน้ำหนักเท้าข้างที่บาดเจ็บ

    ถ้าปวด ให้กินยาแก้ปวด พาราเซตามอล หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก ไพร็อกซิแคม นาโพรเซน)

2. ถ้ามีอาการปวดหรือบวมมากขึ้น หรืออาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน หรือสงสัยเป็นข้อแพลงที่รุนแรง หรือกระดูกแตกร้าวหรือหัก ก็จะทำการเอกซเรย์เพื่อตรวจดูว่ากระดูกมีความผิดปกติหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจแยกอาการข้อแพลงออกจากอาการกระดูกแตกร้าวหรือหักได้ยาก

บางรายแพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติม ด้วยการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรืออัลตราซาวนด์ เพื่อตรวจดูความรุนแรงของโรค

สำหรับข้อเท้าแพลงรุนแรง อาจต้องใส่เฝือกดามข้อเท้า หรือใส่รองเท้าช่วยเดิน (walking boot) จนกว่าอาการจะดีขึ้นและกลับมาเดินได้เป็นปกติ

สำหรับผู้ที่มีข้อแพลงที่รุนแรงมาก หรือรักษาโดยวิธีอื่นไม่ได้ผล ซึ่งพบได้เป็นส่วนน้อยอาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด

ในรายที่เป็นรุนแรงและใช้เวลาในการรักษาอยู่นาน แพทย์จะให้ทำกายภาพบำบัด ฝึกบริหารกล้ามเนื้อให้ฟื้นคืนความแข็งแรงจนใช้งานได้เป็นปกติและป้องกันไม่ให้กำเริบซ้ำ

ผลการรักษา รายที่มีอาการเล็กน้อยมักหายได้ภายใน 2 สัปดาห์ (ไม่เกิน 4 สัปดาห์) รายที่มีอาการปานกลางมักใช้เวลารักษานาน 4-6 สัปดาห์ รายที่มีอาการรุนแรงมักใช้เวลารักษานาน 6-12 สัปดาห์


การดูแลตนเอง

1. ถ้ามีอาการปวดและบวมเล็กน้อย ขยับข้อได้ เดินได้เป็นปกติ ควรดูแลตนเองตามแนวทางการรักษาโดยแพทย์ดังกล่าว ได้แก่

    ประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำเย็นทันที และทำบ่อย ๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง ตลอดตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ในระยะ 48-72 ชั่วโมงแรก (ไม่ควรประคบด้วยความร้อน)
    ใช้ผ้าพันแผลชนิดยืด (elastic bandage) พันพอแน่น (อย่าให้แน่นเกินไป)
    ยกข้อที่แพลงให้สูงกว่าระดับหัวใจ
    พักการใช้ข้อจนกว่าอาการปวดจะทุเลา

สำหรับข้อเท้าแพลง พยายามเดินให้น้อยที่สุด และเวลาเดินอาจใช้ไม้ค้ำยันช่วยให้ไม่ต้องลงน้ำหนักเท้าข้างที่บาดเจ็บ

    ถ้าปวด กินยาแก้ปวด พาราเซตามอล* หรือยาที่แพทย์แนะนำ

ควรไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดมากที่บริเวณข้อที่บาดเจ็บ
    มีอาการบวมมาก หรือบวมที่ตาตุ่มทั้งด้านนอกและด้านใน
    ขยับข้อหรือเคลื่อนไหวข้อลำบาก เพราะขยับแล้วทำให้ปวด
    ลงน้ำหนักเท้าไม่ได้ หรือเดินไม่ได้
    ข้อมีลักษณะผิดรูป หรือสงสัยกระดูกแตกร้าวหรือหัก
    ดูแลตนเอง 2-3 วันแล้วไม่ทุเลา
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

2. ถ้าไปพบแพทย์ตรวจรักษา ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ไปพบแพทย์ตามนัดจนกว่าจะหายเป็นปกติ

ควรไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการปวดหรือบวมมากขึ้น ขยับข้อได้ลำบากมากขึ้น หรือมีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น เฝือกที่ใส่รัดแน่นเกิน แผลที่ผ่าตัดติดเชื้อหรือมีเลือดออก มีอาการแพ้ยา เป็นต้น

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้  ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

หลักใหญ่ คือ ระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในการเล่นกีฬา การออกกำลังกาย และการทำกิจวัตรประจำวัน ดังนี้

    หมั่นออกกำลังกายและบริหารกล้ามเนื้อและเอ็นเป็นประจำ เพื่อให้กล้ามเนื้อและเอ็นมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น
    ก่อนการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทุกครั้ง ควรอบอุ่นร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย
    สวมใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า (ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป) และเลือกให้ถูกกับกิจกรรมหรือกีฬาแต่ละอย่าง ควรเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่หากส้นสึกชำรุด และหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง หรือถ้าจำเป็นควรมีความระมัดระวังตัวให้มาก
    ในการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บของข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เคยมีอาการข้อแพลงมาก่อน ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันข้อไว้
    หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากเกินจนทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า และหากทำกิจกกรรมจนเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า ควรหยุดพัก
    ลดน้ำหนักถ้ามีภาวะน้ำหนักเกิน
    หลีกเลี่ยงหรือระมัดระวังการเดินหรือวิ่งในที่มืด หรือบนพื้นผิวที่ขรุขระ เปียก หรือลื่น
    ระมัดระวังในการขึ้นลงบันไดหรือพื้นต่างระดับ ควรจับราวบันไดหรือที่เกาะ และไม่ควรพูดคุยหรือทำอะไรที่ทำให้เผอเรอระหว่างที่ก้าวขึ้นลงบันได

ข้อแนะนำ

1. ข้อเคล็ดข้อแพลงที่มีอาการรุนแรงเล็กน้อยและขยับข้อหรือเดินได้ปกติ สามารถดูแลรักษาตนเองตามแนวทางที่แพทย์แนะนำได้ อาการมักจะดีขึ้นใน 2-3 วัน และหายขาดภายใน 2-4 สัปดาห์ ถ้าอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน ควรไปพบแพทย์

2. หลังได้รับบาดเจ็บควรพักข้อ และประคบด้วยความเย็นทันที เพราะจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการปวดและบวม ควรประคบทุก 2-3 ชั่วโมง (ครั้งละ 15-20 นาที) ทำต่อเนื่องในระยะ 48-72 ชั่วโมงแรกหลังบาดเจ็บ ห้ามประคบด้วยความร้อน (น้ำอุ่นจัด ๆ หรือเจลประคบร้อน) หรือทาน้ำมันมวยหรือยาทาที่ออกร้อน เพราะจะทำให้หลอดเลือดขยาย เกิดอาการบวมมากขึ้นได้ และห้ามทำการนวด (ด้วยมือหรือใช้ยาทานวดใด ๆ) เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและบวมมากขึ้นได้

การประคบด้วยความร้อน แพทย์อาจจะแนะนำให้ทำในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังและหายบวมแล้วเท่านั้น

3. ในรายที่มีความรุนแรง ซึ่งขยับข้อหรือเดินไม่ได้หรือลำบากเป็นเวลาหลายวัน หลังจากแพทย์ให้การรักษาจนอาการปวดและบวมหายดีแล้ว แพทย์จำเป็นต้องทำการฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วย โดยการทำกายภาพบำบัด ฝึกการออกกำลังเคลื่อนไหวร่างกาย การบริหารบริเวณข้อเท้า (เพื่อให้กล้ามเนื้อและเอ็นแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น) และฝึกการทรงตัวให้กลับมาเป็นปกติ ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีความอดทนฝึกอย่างจริงจัง เช่น อาจเกิดข้อแพลงเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนตามมาได้   

4. ผู้ป่วยที่เป็นข้อเท้าแพลง หลังจากให้การรักษาเบื้องต้นจนทุเลาขึ้นแล้ว และระหว่างรอเวลาฟื้นตัวสู่ปกติ อาจมีอาการปวดเวลาเดินหรือเคลื่อนไหวข้อ แพทย์จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วย โดยอาจใช้ผ้ายืดพันหรือใช้ไม้ค้ำยันช่วยให้ไม่ต้องลงน้ำหนักเท้าข้างที่บาดเจ็บขณะเดิน หรือใช้อุปกรณ์แบบสวมพยุงข้อเท้า (ankle support brace) ช่วยพยุงข้อขณะเคลื่อนไหว ในรายที่เป็นรุนแรง อาจต้องใส่เฝือกดามข้อเท้า หรือใส่รองเท้าช่วยเดิน (walking boot) จนกว่าจะกลับมาเดินได้เป็นปกติ

14
เด็กฟันขากรรไกรยื่นจัดฟันเด็กได้ไหม
 
เด็กหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน เนื่องจากพฤติกรรมต่างๆเช่น การรับประทานอาหาร การแปรงฟันไม่สะอาด หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมในวัยเด็ก อย่างการดูดนิ้ว ดูดขวดนม แต่ปัญหาฟันในบุตรหลานของท่าน สามารถแก้ไขได้เมื่อปัญหานั้นๆ ถูกตรวจพบแต่เนิ่นๆ ในเด็กเล็กอายุไม่เกิน 10 ปี หากเราสามารถตรวจพบความผิดปกติของฟัน ซึ่งอาจเกิดจากการเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ผิดปกติ พฤติกรรมการกิน การกลืน และการใช้ฟันผิดหน้าที่ของเด็ก ทันตแพทย์จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้

ถ้าหากปล่อยให้ปัญหาดำเนินต่อไป โดยไม่ได้รับการรักษา จนเด็กคนนั้นเติบโตหรือมีพัฒนาการที่โตขึ้น ร่างกายเจริญเติบโตขึ้น การแก้ไขปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ อาจจะมีความซับซ้อนมากกว่า และอาจต้องมีการผ่าตัด หรือแก้ไขปัญหาข้อต่อขากรรไกรที่เสื่อมสภาพลงด้วย สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเกิดปัญหาขากรรไกรยื่น และอยากที่จะเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งพ่อแม่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าปัญหาฟันของเด็กแบบไหนที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และวันนี้มีเคสของปัญหาขากรรไกรยื่นมาพูดถึงในแง่มุมของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาฟัน เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีฟันที่เรียงตัวสวยงาม และมีรอยยิ้มที่สดใส มั่นใจ เสริมสร้างบุคลิกภาพให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
 
สำหรับการเกิดภาวะขากรรไกรยื่นหลายคนสงสัยว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเรื่องของความผิดปกติดังกล่าวในเด็กต้องบอกว่า เด็กที่มีปัญหาดังกล่าวนี้ เหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพราะถ้าหากปล่อยไว้และไปแก้ไขตอนโตอาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดขากรรไกร ร่วมกับการจัดฟัน เพราะการจัดฟันทั้งก่อนผ่าตัดหรือหลังผ่าตัดขากรรไกร

สามารถช่วยแก้ไขความผิดปกติของตำแหน่งของฟันบน และขากรรไกรได้ ทั้งตำแหน่งการเรียงตัวฟันหน้า ฟันหลัง การสบฟันให้เหมาะสม มีส่วนช่วยแก้ไขและปรับปรุงโครงหน้าที่ผิดปกติ แก้ปัญหาการสบฟันให้มีความถูกต้องเหมาะสม เพื่อการเคี้ยวให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้สามารถออกเสียงได้ดีขึ้น ที่สำคัญยังแก้ไขถึงความผิดปกติของรูปหน้าอีกด้วย ทำให้มีใบหน้ามีความสวยงามมากยิ่งขึ้น


ดังนั้น ในแง่ของการจัดฟันในเด็ก ถ้าหากเด็กมีปัญหาขากรรไกรยื่น ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ทันที อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็ก สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี เนื่องจากการสบฟันที่ผิดปกติบางอย่าง สามารถแก้ไขได้ หากตรวจพบเมื่อเด็กอายุยังน้อย นอกเหนือจากเรื่องความสวยงาม การเรียงตัวของฟันที่ดีแล้ว การจัดฟัน ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ

เมื่อมีฟันเรียงสวย ไม่ซ้อนเก เด็กก็จะแปรงฟันได้ง่ายขึ้น สะอาดขึ้น ซึ่งระเบียบวินัยเรื่องความสะอาดในช่องปาก ถือเป็นสุขอนามัยพื้นฐาน ที่จะอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิตนั่นเอง ทั้งนี้ การสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับกรดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันของเด็กก็มีความสำคัญไม่น้อย พ่อแม่ผู้ปกครองควรสร้างความเข้าใจให้เด็กได้เรียนรู้วิธีการดูลักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี เพื่อที่จะได้เข้าใจและทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้อง ลดโอกาสการเกิดฟันผุและการเกิดปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับช่องปากและฟันด้วย


หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจให้บุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และยังมีระสบการณ์ด้านทันตกรรมเด็กมาอย่างยาวนาน พร้อมที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาสำหรับเด็กที่อยากเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะทางคลินิกของเรา อยากให้เด็กไทยทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดีตามไปด้วย และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นด้วย

15
ขับรถฤดูฝน ต้องเตรียมตัวอย่างไร? กับ รถรับจ้างขนย้ายบ้านนนทบุรี

ฤดูฝน เป็นฤดูที่ต้องบอกเป็นช่วงเวลาที่มีความยากลำบากในการเดินทาง รวมถึงการขับขี่ที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษมากกว่าช่วงเวลาปกติค่ะ ถึงแม้คุณเองจะชำนาญด้านการขับรถตาม เป็นเพราะอะไรนั้นเราจะอธิบายอย่างนี้นะคะ ในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะในวันที่ฝนตก ทำให้ถนนจะลื่นกว่าวันปกติ อีกทั้งยังทัศนวิสัยลดลง และมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ดังนั้น รถรับจ้างนนทบุรี จะมาพูดถึงการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางในวันที่ฝนตกกันค่ะ นี่คือแนวทางที่ควรปฏิบัติเมื่อต้องขับรถในช่วงฤดูฝน

   
ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง

สิ่งแรกที่เราต้องคำนึงนั่นคือ รถ ที่เราจะใช้สัญจร รถรับจ้างนนทบุรี แน่นอนว่าต้องมีการตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางในวันที่ฝนตกค่ะ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบ ยางรถยนต์ ควรตรวจสอบดอกยางและแรงดันลมยางให้เหมาะสม หากดอกยางสึกหรอ อาจทำให้รถลื่นและควบคุมได้ยาก ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยค่ะ ที่ปัดน้ำฝน ควรตรวจสอบว่าสามารถปัดน้ำได้ดีหรือไม่ หากใบปัดเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนใหม่ ไฟส่องสว่าง ตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย และไฟตัดหมอกให้พร้อมใช้งานเสมอ และที่สำคัญ ระบบเบรกต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ควรเช็กน้ำมันเบรกและการทำงานของเบรกให้มั่นใจว่าปลอดภัยค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นการตรวจเช็คพื้นฐานก่อนการใช้รถในการสัญจรไป-มา ค่ะ

   
ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

เข้าใจดีว่าสำหรับใครที่ใช้รถในชีวิตประจำนั้นไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการขับรถในวันที่ฝนตกได้ รถรับจ้างนนทบุรี แต่การขับขี่ด้วยความระมัดระวังก็ทำให้เราปลอดภัยจากเหตุไม่คาดคิดได้ค่ะ มาดูกันค่ะว่าในวันที่ฝนตกเราจะขับรถยังไงเพื่อให้ปลอดภัย

    ลดความเร็ว : การขับรถเร็วในช่วงฝนอาจทำให้เกิดอาการเหินน้ำ (Hydroplaning) ซึ่งทำให้รถเสียการควบคุม
    เพิ่มระยะห่างจากคันหน้า : ถนนเปียกทำให้ระยะเบรกยาวขึ้น ควรเว้นระยะห่างมากกว่าปกติ
    เปิดไฟหน้า : แม้ในช่วงกลางวัน การเปิดไฟหน้าจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและทำให้รถคันอื่นสังเกตเห็นรถของคุณได้ง่ายขึ้น
    ใช้เกียร์ต่ำในทางลาดชัน : หากต้องขับขึ้นลงทางลาดชัน ควรใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยควบคุมความเร็ว

   
หลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม

หากต้องขับผ่านบริเวณที่มีน้ำขังหรือน้ำท่วมขัง ควรตรวจสอบระดับน้ำก่อน หากสูงเกินกว่ากึ่งล้อ ไม่ควรขับผ่านเพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ดับ น้ำท่วมอาจทำให้เครื่องยนต์ดูดน้ำเข้าไป ส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องยนต์ หากจำเป็นต้องขับผ่าน ควรใช้เกียร์ต่ำและรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่อไอเสีย การเร่งเครื่องมากเกินไปอาจทำให้น้ำกระเด็นเข้าสู่เครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าได้ ควรขับอย่างช้า ๆ และหลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหันเพื่อลดแรงกระแทกของน้ำ และหากน้ำเริ่มท่วมสูงขึ้น ควรหาที่จอดและรอให้ระดับน้ำลดลงก่อน เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อ รถ และ ต่อตัวคุณเองค่ะ

   
เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน

สำหรับใครที่ต้องใช้รถในการสัญจรเป็นประจำ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย สายพ่วงแบตเตอรี่ เครื่องมือซ่อมแซมเบื้องต้น และเบอร์โทรฉุกเฉินติดรถไว้เสมอ รถรับจ้างนนทบุรี กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินกลางทาง จะได้แก้ปัญหาเบื้องได้ และแน่นอนหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นควรเปิดไฟฉุกเฉินและหาที่ปลอดภัยในการจอดรถค่ะ

   
ใช้สติและไม่ประมาท

หลีกเลี่ยงการเร่งแซงบนถนนลื่น เพราะอาจทำให้รถเสียหลัก หากฝนตกหนักมากจนมองไม่เห็นทาง ควรหาที่ปลอดภัยเพื่อจอดรอจนฝนซาลงะค่ะ

การขับรถในช่วงฤดูฝนต้องอาศัยความระมัดระวังและการเตรียมตัวที่ดี เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณเองและผู้ใช้ถนนคนอื่น รถรับจ้างนนทบุรี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณขับรถอย่างปลอดภัยในช่วงหน้าฝนได้ค่ะ

รถรับจ้างนนทบุรี บริการรถรับจ้างครบวงจร รถกระบะรับจ้าง รถสี่ล้อใหญ่รับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง หากต้องการให้เราช่วยเหลือติดต่อเราได้นะคะ ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องการขนย้ายของทุกประเภท พร้อมบริการเรื่องการขนย้าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เลือกใช้บริการ รถรับจ้างนนทบุรี

หน้า: [1] 2 3 ... 97