head prakardsod






























































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 75
1
คอนโดใหม่ 2025 ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก (Porsche Design Tower Bangkok)
เริ่มต้น 525 ลบ. - 1400 ลบ. 

ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก (Porsche Design Tower Bangkok)
คอนโดระดับ Ultra Luxury แห่งแรกในโซนเอเชีย เป็นโครงการที่ร่วมมือกันระหว่าง Porsche Design กับ Ananda Development รูปแบบห้อง Sky Villas แบบดูเพล็กซ์และแบบควอดเพล็กซ์ พร้อมตกแต่งอย่างหรูหราด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ มีเพียง 22 ยูนิต พร้อมลิฟต์ ระเบียง สระว่ายน้ำส่วนตัว พร้อมที่จอดรถซูเปอร์คาร์ส่วนตัว บนทำเลสุขุมวิท 38 ใกล้ รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                 ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก (Porsche Design Tower Bangkok)
 เจ้าของโครงการ           อนันดาดีเวลลอปเม้นท์
 ราคา                        เริ่มต้น 525 ลบ. - 1400 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล                    คอนโดย่านธุรกิจกลางเมือง, คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด                 High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ขนาดห้องที่มี                 ตั้งแต่ 525.00 ถึง 1,135.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด                 2 ไร่ 49 ตร.ว.
 จำนวนตึก                     1 อาคาร
 จำนวนชั้น                    21 ชั้น และชั้นใต้ดิน 4 ชั้น
 จำนวนห้อง                   22 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด             174 คัน หรือประมาณ 790%
 ค่าบำรุงส่วนกลาง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค             สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, อื่นๆ (Spa, Social Lounge, Business Lounge)

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน              คลองเตย
 ที่ตั้ง             ซอยสุขุมวิท 38 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. 10110

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:               ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานีหมอชิต - แบริ่ง(ทองหล่อ)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Fifty Fifth
Major Cineplex เอกมัย
Rain Hill
Gateway เอกมัย
Emporium / Emquartier
J Avenue Thonglor
Donki Mall เอกมัย
K Village
Terminal 21
Wells International School (Thonglo Campus)
Ekamai International School
Bangkok PREP International School
St. Andrews (Srivikorn Campus)
มศว.ประสานมิตร
St. Andrews (Sukhumvit 107)
Anglo Singapore Campus
รพ.สุขุมวิท
รพ.กล้วยน้ำไท
รพ.สมิติเวช สุขุมวิท
รพ.คามิลเลียน

2
บ้านโครงการใหม่ 2025 คาซ่า วิลล์ เทพารักษ์ - ธนสิทธิ์ (Casa Ville Thepharak - Thanasit)
เริ่มต้น 6 ลบ. - 12 ลบ.

คาซ่า วิลล์ เทพารักษ์ - ธนสิทธิ์ (Casa Ville Thepharak - Thanasit)
คาซ่า วิลล์ เทพารักษ์ - ธนสิทธิ์ โครงการบ้านใหม่จาก Q-House บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern English บนทำเลศักยภาพ บางนา - เทพารักษ์ บ้านภายใต้แนวคิด Live The Breezy Bliss "สัมผัสความสุขครั้งใหม่ อีกระดับการใช้ชีวิต ในบรรยากาศสบายๆ กับสายลมแห่งการพักผ่อน" พร้อมพรั่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก Lake View Club ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสวนสาธารณะขนาดใหญ่

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                   คาซ่า วิลล์ เทพารักษ์ - ธนสิทธิ์ (Casa Ville Thepharak - Thanasit)
 เจ้าของโครงการ              ควอลิตี้เฮ้าส์
 แบรนด์ย่อย                   คาซ่า วิลล์
 ราคา                           เริ่มต้น 6 ลบ. - 12 ลบ.

 ประเภทบ้าน                บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล               บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนบ้าน                387 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด          4 แบบ
  เนื้อที่บ้าน                ตั้งแต่ 51 ถึง 100 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย              ตั้งแต่ 171 ถึง 261 ตร.ม.
 จำนวนชั้น                 2 ชั้น
 หน้ากว้าง                โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน          4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ         ตั้งแแต่ 2 ถึง 3 คัน
 สาธารณูปโภค          สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (Lobby Hall, EV Charger, ระบบไฟ LED ประหยัดพลังงาน, ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ), สนามเด็กเล่น, Jogging Track, Co-working space

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน             สมุทรปราการ, บางพลี, บางบ่อ, พระประแดง
 ที่ตั้ง            ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้ทางด่วน (ทางด่วนบูรพาวิถี ด่านบางพลี (ขาเข้า), ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก ด่านเทพารักษ์)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนเทพารักษ์, ถนนตำหรุ-บางพลี, ถนนบางนา-ตราด)
ขนส่งอื่นๆ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. บิ๊กซีบางพลี
2. มาร์เก็ตวิลเลจสุวรรณภูมิ
3. เมกาบางนา
4. เซ็นทรัลวิลเลจเอาท์เล็ท
5. โรงเรียนสาธิตบางนา
6. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ
7. มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
8. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์
9. โรงพยาบาลบางพลี รพ.บางนา5

3
จัดฟันบางนา: ขูดหินปูน ควรทำเมื่อไหร่!

ขูดหินปูน เป็นประจำทุกๆ 6 เดือนหรือ ปีละ 1ครั้ง จะช่วยให้สุขภาพในช่องปากเราดีไม่มีกลิ่นปาก เหงือกไม่อักเสบ และทุกๆครั้งที่มาพบหมอฟันคุณหมอจะตรวจดูสุขภาพเหงือกและฟันให้สะอาด โดยการขูดหินปูนและตรวจดูฟันผุให้ด้วยคะ

สิ่งที่ทำให้เกิดหินปูนมีหลายปัจจัย เช่น คราบอาหาร ชา กาแฟ คราบบุหรี่หรือแม้กระทั่งตัวเราเองที่ทำความสะอาดไม่ทั่ว เช่น แปลงฟันไม่สะอาด ไม่ใช้ไหมขัดฟันก็ทำให้เกิดหินปูนได้ เพราะฉะนั้นเราจึงควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ6เดือน หรือปีละ1ครั้ง

การขูดหินปูนสำหรับคนจัดฟัน
สำหรับคนที่จัดฟันก็สามารถขูดหินปูนทุกๆ6เดือนหรือ อาจจะบ่อยกว่านั้นแล้วแต่คุณหมอจัดฟันจะพิจารณา เพราะเวลาใส่เครื่องมือจัดฟันเราจะทำความสะอาดยากมาก เพราะจะมีทั้งลวดและโอริง,เชน ติดอยู่ที่ฟันเราตลอดเวลา ทำให้มีกลิ่นปากและมีหินปูนขึ้นเร็วกว่าปกติ เพราะฉะนั้น คนที่จัดฟันก็ควรขูดหินปูนเช่นกัน


ขูดหินปูนเจ็บมั้ย

การขูดหินปูนเป็นหัตถการทางทันตกรรมที่อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายได้บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่เจ็บมากอย่างที่หลายคนกังวล ความรู้สึกระหว่างการขูดหินปูนจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น:

ปริมาณหินปูน: หากมีหินปูนสะสมมาก โดยเฉพาะบริเวณใต้เหงือก อาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือเสียวฟันได้มากกว่า
สภาพเหงือก: หากมีเหงือกอักเสบหรือโรคปริทันต์ อาจทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้น
ความไวต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล: บางคนอาจมีความไวต่อความเจ็บปวดมากกว่าคนอื่น


ความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขูดหินปูน:

เสียวฟัน: เป็นความรู้สึกที่พบบ่อย โดยเฉพาะบริเวณคอฟัน
เจ็บเหงือก: หากมีเหงือกอักเสบ อาจรู้สึกเจ็บขณะขูดหินปูน
รู้สึกไม่สบาย: อาจรู้สึกไม่สบายหรืออึดอัดเล็กน้อยขณะทำหัตถการ


สิ่งที่ควรทราบ:

โดยทั่วไป ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือขูดหินปูนแบบสั่น (Ultrasonic Scaler) ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดได้
หากคุณมีความกังวลเรื่องความเจ็บปวด สามารถแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนทำหัตถการได้
ในบางกรณี ทันตแพทย์อาจใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด


คำแนะนำ:

ควรขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6-12 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของหินปูนและลดความเสี่ยงของปัญหาช่องปาก
หากมีอาการผิดปกติหลังขูดหินปูน เช่น เลือดออกมาก หรือปวดรุนแรง ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที

4
จัดฟันบางนา: สุขภาพช่องปากของเด็กที่ไม่ควรมองข้าม

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม ซึ่งปกติแล้วเด็กจะมีฟันน้ำนมซี่แรก เมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน และซี่อื่น ๆก็จะขึ้นตามมา สำหรับเด็กถ้าเป็นโรคภายในช่องปากจะมีผลกระทบกระเทือนต่อระบบโภชนาการของเด็ก เพราะฉะนั้นเด็กจึงควรได้รับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพช่องปากและฟันที่เหมาะสม พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านอาจจะสอนให้เด็กได้ดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตัวเอง โดยสอนให้ลูกรู้จักการแปรงฟันที่ถูกต้อง ควรรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ นอกจากจะได้คุณค่าต่อร่างกายแล้วยังช่วยให้ฟันทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหารได้เต็มที่


กระตุ้นให้ขากรรไกรและใบหน้าเจริญสมบูรณ์ พยายามให้เด็กดื่มนมสดเป็นประจำเพราะมีประโยชน์ต่อร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันด้วย และต้องสอนให้รู้จักหลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดฟันผุ ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบท่านแพทย์ เพื่อรับการตรวจอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีสำหรับวันนี้ทางคลินิกจะมาพูดถึงสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะถือว่าเป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักดูแลสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อให้เขาได้มีสุขภาพฟันที่แข็งแรงไม่เกิดปัญหาตามมาในอนาคต

สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กนั้น ควรเริ่มดูแลตั้งแต่แรกเกิดและไม่จำเป็นต้องรอให้ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นก่อน ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบกับทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องหมั่นช่วยดูแลสุขภาพฟันและสอนวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องควบคู่ไปด้วย สำหรับเด็กในอายุ6 เดือน-1 ขวบ เด็กในวัยนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานไปพบทันตแพทย์เมื่อมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นหรืออายุประมาณ 1 ขวบ สำหรับเด็กเล็กถึงเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน หลังจากที่เด็กได้รับการตรวจสุขภาพฟันครั้งแรกแล้วผู้ปกครอง


ควรพาลูกไปตรวจสุขภาพฟันครั้งทุก ๆ 6 เดือน หากทันตแพทย์พอพิจารณาว่าสุขภาพช่องปากในฟันของเด็กมีปัญหาหรือเกิดฟันผุ ทันตแพทย์ก็จะทำการนัดให้เด็กมาตรวจสุขภาพฟันบ่อยขึ้น สำหรับการที่จะพบทันตแพทย์ในครั้งแรกนั้นการพาเด็กไปพบทันตแพทย์ทั่วไปหรือทันตแพทย์สำหรับเด็กมีความแตกต่างกันคือ เด็กอาจจะรู้สึกสบายใจ เพลิดเพลินไปกับสีสันและสิ่งแวดล้อมในห้องตรวจสำหรับเด็กมากกว่าของทันตแพทย์ทั่วไป ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรจะพิจารณาทางเลือกให้เหมาะสมกับลูก ก่อนทำการนัดหมายเพื่อเป็นการปลูกฝังเด็กไม่กลัว หรือกังวล กับการที่จะต้องไปพบกับทันตแพทย์


สำหรับการเตรียมความพร้อมและการปลูกฝังให้เด็กก่อนที่จะพาไปพบกับทันตแพทย์ สามารถช่วยให้เด็กเกิดความคุ้นเคยและไม่กลัว เมื่อต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพฟัน โดยจะมีการกำหนดเวลา โดยควรเลือกช่วงเวลาและวันที่เหมาะสม ควรสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อให้เด็กรู้ว่าการตรวจสุขภาพฟันนั้นจะช่วยให้เด็กมีสุขภาพฟันที่ดีและแข็งแรงขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรรับฟังเพราะเปิดโอกาสให้เด็กบอกเล่าถึงความรู้สึกต่อการรักษาฟัน เพื่อไม่ให้เด็กเกิดอาการกลัวเมื่อต้องพบกับทันตแพทย์ ส่วนใหญ่ผู้ปกครองหลายคนละเลยหรือมองข้ามเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กเพราะคิดว่าฟันน้ำนมจะหลุดเองและไม่ต้องให้ความสำคัญมากนัก ซึ่งถือว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมากเพราะนอกจาก เป็นการปลูกฝังความคิดที่ผิดแล้ว ยังจะทำให้เด็กไม่กล้าพบกับทันตแพทย์


เราจะมาพูดถึงว่า ทำไมพ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะใส่ใจดูแลรักสาสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่าน ต้องบอกก่อนว่าสุขภาพช่องปากและฟันเป็นส่วนหนึ่งของความงามที่สามารถสร้างความประทับใจได้เมื่อแรกเห็นได้ เชื่อว่าเด็ก ๆ จะมีความมั่นใจและภูมิใจในตัวเอง หากได้รับคำชม นอกจากนี้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะทำให้รู้สึกมีความมั่นใจสามารถพบปะผู้คนได้อย่างเต็มที่และไม่ทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย นอกจากนี้สุขภาพช่องปากและฟันยังมีผลต่อสุขภาพด้านอื่นด้วย เนื่องจากเราต้องใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหาร


ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเข้าไปช่วยบำรุงรักษาและเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเราถ้าหากเรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่ดีใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดก็อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้ในเรื่องของการออกเสียงการพูด เพราะว่าเด็กมีจำนวนไม่น้อยที่พูดไม่ชัดเนื่องจากปัญหาของสุขภาพช่องปากฟันถ้าไม่มีฟันหน้า เด็กจะไม่สามารถพูด ออกเสียง ได้ถูกต้อง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับวัยเด็ก เพราะฉะนั้นสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีของเด็ก จึงถือว่ามีความสำคัญมากและไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง


เพราะถ้าเด็กในวัยนี้ มีการเกิดโรคภายในช่องปากก็จะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตพัฒนาการของเด็กอีกด้วยอย่างไรก็ตามพ่อแม่ผู้ปกครองควรหมั่นดูแลปลูกฝังให้เขาดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้สะอาดอยู่เสมอ ทั้งนี้หากผู้ปกครองท่านใดสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจช่องปากและฟันประจำปี สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากทางคลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก จึงทำให้มั่นใจได้ว่าบุตรหลานของท่าน จะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

5
ประโยนช์ของท่อลมร้อน

ท่อลมร้อนมีประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและในชีวิตประจำวัน ดังนี้:

1. การระบายอากาศ
ระบายอากาศเสีย: ท่อลมร้อนช่วยระบายอากาศเสีย ควันพิษ หรือสารเคมีอันตรายออกจากอาคารหรือโรงงาน เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ
ระบายความร้อน: ท่อลมร้อนช่วยระบายความร้อนจากเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิต เพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสม
ระบายความชื้น: ท่อลมร้อนช่วยระบายความชื้นออกจากอาคาร เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์

2. การถ่ายเทความร้อน
ระบบทำความร้อน: ท่อลมร้อนใช้ในระบบทำความร้อน เพื่อส่งลมร้อนไปยังพื้นที่ต่างๆ ในอาคาร
ระบบอบแห้ง: ท่อลมร้อนใช้ในระบบอบแห้ง เพื่อเร่งกระบวนการอบแห้งในอุตสาหกรรมต่างๆ

3. การดูดควันและสารเคมี
งานเชื่อมและตัดโลหะ: ท่อลมร้อนใช้ดูดควันและสะเก็ดไฟที่เกิดขึ้นในงานเชื่อมและตัดโลหะ เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพและป้องกันไฟไหม้
ห้องปฏิบัติการ: ท่อลมร้อนใช้ดูดไอระเหยของสารเคมีและสารพิษออกจากห้องปฏิบัติการ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

4. การขนส่งวัสดุ
ระบบลำเลียง: ท่อลมร้อนใช้ในระบบลำเลียง เพื่อขนส่งวัสดุที่เป็นผงหรือเม็ดเล็กๆ ในอุตสาหกรรมต่างๆ

5. ประโยชน์อื่นๆ
ลดการสะสมความร้อน: ท่อลมร้อนช่วยลดการสะสมความร้อนในอาคารหรือโรงงาน ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานดีขึ้น
ป้องกันการระเบิด: ในโรงงานที่มีสารไวไฟ ท่อลมร้อนช่วยระบายไอระเหยของสารเคมีและป้องกันการสะสมของก๊าซไวไฟ
เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: การระบายอากาศและถ่ายเทความร้อนที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการสูญเสียพลังงาน

ตัวอย่างการใช้งาน
โรงงานอุตสาหกรรม: ใช้ระบายความร้อนจากเครื่องจักร ดูดควันพิษ และระบายอากาศเสีย
อาคารสำนักงาน: ใช้ระบายอากาศในห้องประชุม ห้องครัว และห้องน้ำ
ห้องปฏิบัติการ: ใช้ดูดไอระเหยของสารเคมีและสารพิษ
ร้านอาหาร: ใช้ดูดควันและไอน้ำมันจากครัว
บ้านพักอาศัย: ใช้ระบายอากาศในห้องน้ำ ห้องครัว และห้องใต้หลังคา

การเลือกใช้ท่อลมร้อนที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน จะช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

6
การบำรุงรักษาระบบท่อลมร้อน

การบำรุงรักษาระบบท่อลมร้อนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีขั้นตอนและข้อควรระวังดังนี้:

1. การตรวจสอบเป็นประจำ

การตรวจสอบด้วยสายตา:
ตรวจสอบท่อลมอย่างละเอียดเพื่อหารอยแตก รอยร้าว หรือรอยต่อที่ไม่สนิท
ตรวจสอบบริเวณรอบๆ ท่อลมเพื่อหารอยคราบหรือรอยเปื้อน ซึ่งอาจเกิดจากการรั่วซึม

การตรวจสอบด้วยมือ:
สัมผัสบริเวณรอยต่อหรือรอยแตกของท่อลม เพื่อตรวจจับลมที่รั่วออกมา
สัมผัสบริเวณท่อลมเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิ หากพบว่าบางบริเวณมีอุณหภูมิแตกต่างจากบริเวณอื่นอย่างชัดเจน แสดงว่าอาจมีการรั่วซึม

การตรวจสอบด้วยอุปกรณ์:
ใช้เครื่องวัดความดันเพื่อตรวจสอบความดันภายในท่อลม
ใช้เครื่องวัดการไหลของอากาศเพื่อตรวจสอบปริมาณลมที่ไหลผ่านท่อลม
ใช้เครื่องตรวจจับรอยรั่ว (Leak Detector) เพื่อตรวจจับการรั่วไหลของอากาศหรือก๊าซ

2. การทำความสะอาด
ทำความสะอาดท่อลม: ทำความสะอาดท่อลมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ซึ่งอาจทำให้การไหลของอากาศไม่สะดวก
ทำความสะอาดพัดลม: ทำความสะอาดพัดลมดูดอากาศ เพื่อให้พัดลมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การซ่อมแซม
ซ่อมแซมรอยรั่ว: หากพบรอยรั่ว ควรซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานและรักษาประสิทธิภาพของระบบ
เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุด: หากพบชิ้นส่วนที่ชำรุด ควรเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ เพื่อป้องกันอันตรายและรักษาประสิทธิภาพของระบบ

4. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
ตรวจสอบและปรับแต่งอุปกรณ์ควบคุม: ตรวจสอบและปรับแต่งอุปกรณ์ควบคุม เช่น เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับสารเคมี เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทำงานได้อย่างถูกต้อง
ตรวจสอบฉนวนกันความร้อน: ตรวจสอบฉนวนกันความร้อนรอบท่อลม เพื่อให้มั่นใจว่าฉนวนยังอยู่ในสภาพดี และไม่มีรอยชำรุด

5. ข้อควรระวัง
ความปลอดภัย: ควรปิดระบบระบายอากาศก่อนทำการบำรุงรักษา เพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อนและแรงดัน
อุปกรณ์ป้องกัน: สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และหน้ากาก เพื่อป้องกันอันตรายจากวัสดุและสารเคมี
ผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่มั่นใจในการบำรุงรักษา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำหรือให้ทำการบำรุงรักษา

6. คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรมีการบันทึกข้อมูลการบำรุงรักษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบและวางแผนการบำรุงรักษาในอนาคต
ควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจในการบำรุงรักษาระบบท่อลมร้อน

ควรมีการจัดทำแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อให้มั่นใจว่าระบบท่อลมร้อนได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
การบำรุงรักษาระบบท่อลมร้อนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ลดการสูญเสียพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของระบบ

7
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: คางทูม (Mumps/Epidemic parotitis)

คางทูม เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของต่อมน้ำลาย โดยมากมักจะเป็นที่ต่อมน้ำลายข้างหู (parotid glands) พบมากในเด็กอายุ 6-10 ปี มักไม่พบในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และผู้ใหญ่อายุมากกว่า 40 ปี มีอุบัติการณ์สูงในเดือนมกราคมถึงเมษายน และกรกฎาคมถึงกันยายน อาจพบการระบาดได้เป็นครั้งคราว

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อคางทูม ซึ่งเป็นไวรัสในกลุ่ม paramyxovirus เชื้อจะอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อโดยการหายใจสูดเอาฝอยละอองเสมหะที่ผู้ป่วยไอหรือจามรด หรือโดยการสัมผัสถูกมือ สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ จาน ชาม เป็นต้น) หรือสิ่งแวดล้อมที่แปดเปื้อนเชื้อแบบเดียวกับไข้หวัด เชื้อเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและปาก แล้วแบ่งตัวในเซลล์เยื่อบุของทางเดินหายใจส่วนต้น หลังจากนั้นเชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด แพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะต่อมน้ำลายข้างหู

ระยะฟักตัว 2-4 สัปดาห์ (เฉลี่ย 16-18 วัน)

อาการ

ที่สำคัญ คือ ขากรรไกรบวม 1-2 ข้าง โดยแรกเริ่มผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร บางรายอาจเจ็บคอภายใน 24 ชั่วโมง (บางรายอาจหลายวัน) ต่อมาจะมีอาการปวดที่ข้างแก้มใกล้ใบหูหรือปวดหู ซึ่งจะเป็นมากขึ้นเวลาพูด เคี้ยว หรือกลืน หรือเวลากินอาหารรสเปรี้ยว เช่น น้ำส้ม มะนาว ต่อมาจะเกิดอาการบวมที่ขากรรไกรบริเวณใต้หูและข้างหู (ทั้งด้านหน้าและหลังหู) ทำให้ใบหูถูกดันขึ้นข้างบน ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดมากขึ้น จนบางครั้งพูด เคี้ยว หรือกลืนลำบาก อาการบวมและปวดจะเป็นมากสุดภายใน 1-3 วัน แล้วค่อย ๆ ลดลง และส่วนใหญ่จะหายไปภายใน 4-8 วัน บางรายอาจนานถึง 10 วัน ส่วนอาการไข้ส่วนใหญ่จะเป็นอยู่ 3-4 วัน บางรายอาจเป็นอยู่ประมาณ 1-6 วัน

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีขากรรไกรบวมข้างเดียวก่อน ต่อมาอีก 1-2 วัน (บางรายหลายวัน) จึงบวมอีกข้าง ประมาณร้อยละ 25 ของผู้ป่วยจะมีอาการบวมเพียงข้างเดียว

บางรายอาจมีการอักเสบของต่อมน้ำลายใต้คาง (submandibular glands) และใต้ลิ้น (sublingual glands) ร่วมด้วย ทำให้มีอาการบวมที่ใต้คาง

บางรายอาจมีขากรรไกรบวมโดยไม่มีอาการอื่น ๆ นำมาก่อน หรืออาจมีเพียงอาการไข้โดยขากรรไกรไม่บวมก็ได้

ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ที่ติดเชื้อคางทูมจะไม่แสดงอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากจะหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนน้อยที่อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย ซึ่งเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อคางทูมของเนื้อเยื่อส่วนอื่น ซึ่งอาจแสดงอาการก่อน ขณะ หรือหลังขากรรไกรบวม หรืออาจเกิดขึ้นโดยไม่มีอาการขากรรไกรบวมก็ได้

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย ได้แก่ อัณฑะอักเสบ (orchitis) พบได้ประมาณร้อยละ 30-38 จะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น อัณฑะปวดและบวม (จะปวดมากใน 1-2 วันแรก) มักพบหลังเป็นคางทูม 7-10 วัน แต่อาจพบก่อนหรือพร้อม ๆ กับคางทูมก็ได้ ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้างเดียวและน้อยรายที่จะกลายเป็นหมัน มักพบหลังวัยแตกเนื้อหนุ่ม ส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ 30-40 ปี ในเด็กอาจพบได้บ้าง แต่น้อยกว่าในผู้ใหญ่มาก

อาจพบรังไข่อักเสบ (oophoritis) ซึ่งจะมีอาการไข้และปวดท้องน้อย มักพบในวัยแตกเนื้อสาว ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เป็นหมันได้

อาจทำให้แท้งบุตรในกรณีติดเชื้อคางทูมในระยะไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์

อาจพบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยที่สุด มักมีอาการเพียงเล็กน้อยและหายได้เอง ส่วนสมองอักเสบอาจพบได้บ้างแต่น้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม่รุนแรง ส่วนน้อยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางสมอง หรือร้ายแรงถึงตาย

นอกจากนี้ ยังอาจพบตับอ่อนอักเสบ ประสาทหูอักเสบ (อาจทำให้หูตึงหรือสูญเสียการได้ยินชั่วคราวหรือถาวรได้) ไตอักเสบ ต่อมไทรอยด์อักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ข้ออักเสบ ตับอักเสบ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ แต่ล้วนเป็นภาวะที่พบได้น้อยมาก

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

มักตรวจพบไข้ 38-40 องศาเซลเซียส (บางรายอาจไม่มีไข้) บริเวณขากรรไกรบวมข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง กดเจ็บ

รูเปิดของท่อน้ำลายในกระพุ้งแก้ม (บริเวณตรงกับฟันกรามบนซี่ที่ 2) อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย

อาจพบอาการลิ้นบวม (ในรายที่มีต่อมน้ำลายใต้ลิ้นอักเสบ) หรือหน้าอกตรงส่วนใต้คอบวม (ในรายที่มีต่อมน้ำลายใต้คางบวม)

ในรายที่จำเป็นต้องวินิจฉัยโรคคางทูมให้แน่ชัด แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด (ทำการทดสอบทางน้ำเหลือง) เพื่อหาระดับสารภูมิต้านทานต่อเชื้อคางทูม การตรวจหาเชื้อคางทูมจากน้ำลาย น้ำไขสันหลัง หรือปัสสาวะ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้

1. ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการขากรรไกรบวม มีประวัติ (เช่น การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นคางทูม) และอาการ (มีไข้ ปวดขากรรไกรมาก่อน) เข้าได้กับโรคคางทูม โดยไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็ให้การรักษาตามอาการโดยไม่ต้องให้ยาปฏิชีวนะ แนะนำให้ผู้ป่วยนอนพัก ดื่มน้ำมาก ๆ เช็ดตัวเวลามีไข้สูง หลีกเลี่ยงอาหารรสเปรี้ยว ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบ ถ้าปวดมากใช้กระเป๋าน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบ

ในช่วงที่ขากรรไกรบวมหรือปวดมาก หรืออ้าปากลำบาก แนะนำให้ผู้ป่วยกินอาหารอ่อนหรือที่เคี้ยวง่าย

ถ้าไข้ไม่สูงหรือไม่มีไข้ ไม่ต้องให้ยา ถ้าไข้สูงให้พาราเซตามอล ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี ควรหลีกเลี่ยงการใช้แอสไพริน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรย์ซินโดรม

2. ถ้ามีอัณฑะอักเสบ ให้ประคบด้วยน้ำแข็ง ให้ยาลดไข้แก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ส่วนใหญ่มักหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์

ในรายที่อักเสบรุนแรงหรือให้ยาลดไข้แก้ปวดแล้วไม่ทุเลา แพทย์อาจพิจารณาให้ยาสเตียรอยด์ลดการอักเสบ เช่น ให้เพร็ดนิโซโลน

3. ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก คอแข็ง ชัก หรือซึมไม่ค่อยรู้สึกตัว แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม และให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ

ผลการรักษา ส่วนใหญ่ให้การรักษาตามอาการ มักจะหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ส่วนน้อยที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนตามมา

การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจ หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นคางทูม ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตัว ดังนี้

    พักผ่อนมาก ๆ ห้ามอาบน้ำเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเวลามีไข้สูง ดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงอาหารรสเปรี้ยว
    กินอาหารตามปกติหรืออาหารอ่อน (เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก)
    ใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เป็นคางทูม
    ถ้ามีไข้สูง หรือปวด กินยาลดไข้แก้ปวด - พาราเซตามอล* (ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี ควรหลีกเลี่ยงการใช้แอสไพริน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรย์ซินโดรม)  (ดู โรคเรย์ซินโดรม)

2. ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการชัก ไม่ค่อยรู้สึกตัว ปวดศีรษะมาก อัณฑะปวดและบวม ปวดท้องนานเป็นชั่วโมง ๆ เจ็บหน้าอกมาก หรือตาเหลืองตัวเหลือง
    มีอาการเหงือกอักเสบ
    มีประวัติการแพ้ยา สตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรือมีโรคตับ โรคไต หรือประจำตัวอื่น ๆ ที่มีการใช้ยา หรือแพทย์นัดติดตามการรักษาอยู่เป็นประจำ
    หลังกินยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    อาการไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

1. การฉีดวัคซีนป้องกัน แนะนำให้ฉีดวัคซีนรวมป้องกันหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) แก่เด็กทุกคน โดยฉีดเข็มแรกเมื่ออายุ 9-12 เดือน และฉีดซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 4-6 ปี

2. ในช่วงที่มีการระบาดหรือมีคนใกล้ชิดป่วยเป็นโรคนี้ แนะนำให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับไข้หวัด

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้เกิดจากไวรัส ถือเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง ซึ่งมักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยไม่ต้องฉีดยาหรือให้ยาจำเพาะแต่อย่างใด การที่ชาวบ้านในสมัยก่อนหรือบางคนนิยมเขียน “เสือ” ด้วยตัวหนังสือจีนที่แก้มทั้ง 2 ข้าง หรือใช้ปูนแดงหรือครามป้ายแล้วหายได้นั้นก็เพราะเหตุนี้

2. ควรแยกผู้ป่วยออกต่างหาก อย่าให้คลุกคลีกับคนอื่น จนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ (ระยะติดต่อตั้งแต่ 4 วันก่อนมีอาการจนกระทั่ง 9 วัน หลังมีอาการ)

3. ควรเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ หากสงสัยควรส่งไปตรวจที่โรงพยาบาล

4. เมื่อเป็นแล้วมักจะไม่เป็นซ้ำอีก

5. อาการคางบวม อาจมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ ได้ ควรซักถามอาการและตรวจร่างกายให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจดูภายในปากและลำคอ (ตรวจอาการ คางบวม/คอบวม ประกอบ) และถ้าให้การดูแลรักษาตามอาการ 1 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลา ก็ควรค้นหาสาเหตุอื่นต่อไป เช่น เมลิออยโดซิส ต่อมน้ำลายอักเสบ*

6. ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโรคนี้ หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ (เช่น ไข้ เจ็บคอ เสียงแหบ น้ำมูกไหล ไอ ท้องเดิน หายใจเหนื่อยหอบ) หรือทำการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจน (ATK) ด้วยตนเองให้ผลเป็นบวก ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

* ต่อมน้ำลายอักเสบ (parotitis) มักมีลักษณะเป็นก้อนนุ่ม ๆ ที่มุมขากรรไกร หรือใต้คางอย่างเรื้อรัง อาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย อาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชักนำชัดเจนก็ได้ บางรายอาจพบว่ามีภาวะอุดกั้นของท่อน้ำลายจากก้อนนิ่ว  เนื้องอก  หรือท่อน้ำลายตีบ  หากพบควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาที่ถูกต้อง

8
มอเตอร์โชว์ 2025: BYD M6 รถเอ็มพีวีไฟฟ้า 7 ที่นั่ง เตรียมเปิดตัวพร้อมค่าตัวอาจไม่เกินล้าน!

หลังจากโชว์ตัวและจัดให้สื่อได้ลองขับ BYD M6 Minorchange ที่เปลี่ยนชื่อใหม่จาก E6 เดิม โดยใช้พื้นฐานเดิมมาปรับปรุงสมรรถนะ ฟังก์ชั่นและระบบต่างใหม่หมด พร้อมกับมีรุ่น 6 ที่นั่งแบบ Captain Seat และ 7 ที่นั่ง ใกล้ถึงวัยเปิดตัวแล้ว 6 กันยายน นี้ คาดว่าราคาเริ่มต้นไม่ข้ามล้าน! หรือถ้าอดใจรอจะไปดูคันจริงกันก่อนพร้อมโปรโมชันที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 นี้ก็ได้

ราคาเปิดตัว BYD M6 เปิดราคาแล้ว
Dynamic 829,900 บาท
Extended 929,900 บาท


BYD M6 เปิดราคาแล้วเริ่มแสนกว่าบาท!
 
ภาพรวมของ BYD M6 นั้น เป็นรถยนต์ MPV ขนาดพอ ๆ กับ Toyota Wish หรือ Mitsubishi Specewagon แบบ 5 และ 7 ที่นั่ง ให้เลือก มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ที่แรงขึ้น กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ที่ขับมันกว่าเดิม พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 71.8 kWh วิ่งได้ระยะทางใกล้ ๆ เคียงเดิมคือ 500 กิโลเมตรต่อชาร์จ (NEDC) และตัวรถใหญ่แบบนี้ยังทำอัตราเต่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.6 วินาที นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวครับ

 
ภายนอกปรับไฟหน้าใหม่แบบ LED ไฟท้ายทรงเดิมแต่ลวดลายใหม่ ล้ออัลลอยใหม่ หลังคาพาโนรามิก ภายในไม่ปรับเยอะมากนักแต่เพิ่มออปชั่นต่าง ๆ เข้าไปให้ทันสมัยมากขึ้น อย่างเช่น หัวเกียร์แบบจอยสติ๊ก จอกลาง Touchscreen ขนาด 12.8 นิ้ว เพิ่มเติมระบบความปลอดภัยเข้าไปอีก เช่น รองรับ Apple CarPlay / Android Auto, กล้องมองรอบคัน, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่าง ๆ มากมาย รวมถึง ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน, โหมดการขับขรา, Auto Hold Brake เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีความสะดวกสบายเต็มคัน เช่น ม่านหลังคาไฟฟ้า, ฝาท้ายไฟฟ้า, ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบกรองอากาศ PM 2.5,  ระบบเป่าลงเย็นเบาะคู่หน้า และช่องแอร์หลังที่แยกปรับแรงลมได้, เบาะแถว สอง และสามที่พับเก็บแบบแยกอิสระซ้ายขวาและพับได้แบบราบพร้อมระบบจ่ายไฟฟ้าภายนอก VtOL เป็นต้น  รอเปิดตัวและลุ้นราคาสำหรับรถยนต์ MPV ที่น่าจะเป็นรถที่ตอบสนองการใช้งานครอบครัวได้คุ้มค่าทุก ๆ ฟังก์ชั่น โดยเฉพาะถ้าเปิดราคารุ่นเริ่มต้นไม่ล้านบาท ก็อาจจะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากลับ "แตก" อีกครั้ง

9
วัดนาป่าพงไหว้พระพุทธรูปเก่าแก่แนะนำใส่ชุดขาว ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธศาสนานำไปสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์

วัดนาป่าพงเป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานีมีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามและความสงบ วัดนี้มีอายุประมาณ 100 ปีและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในพื้นที่ วัดนี้ยังมีกิจกรรมทางศาสนาและการศึกษาต่างๆ ให้กับชาวบ้านในพื้นที่เหมาะใส่ชุดขาว ชุดขาวชาย ชุดขาวหญิง ชุดขาวปฏิบัติธรรม มาเที่ยววัดนาป่าพงวัดแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องสถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ

ภาพรวมโดยย่อของวัดหน้าป่าพง
วัดนาป่าพงมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบแบบไทยดั้งเดิม มีการแกะสลักที่ประณีตและจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามซึ่งแสดงถึงคำสอนทางพุทธศาสนาที่สำคัญ วัดล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจี สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิและการไตร่ตรอง

กิจกรรมและแนวทางปฏิบัติทางจิตวิญญาณ
ผู้มาเยี่ยมชมวัดนาป่าพงสามารถร่วมกิจกรรมทางจิตวิญญาณต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจในธรรมะให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ได้แก่

เซสชั่นการทำสมาธิ : วัดแห่งนี้จัดให้มีเซสชั่นการทำสมาธิโดยมีพระภิกษุผู้มีประสบการณ์เป็นผู้นำเป็นประจำ เซสชั่นเหล่านี้เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้สำรวจสติและความสงบภายใน

ธรรมบรรยาย : พระสงฆ์ที่วัดนาป่าป้องนำเสนอธรรมบรรยายเชิงลึกที่ครอบคลุมถึงปรัชญา จริยธรรม และการปฏิบัติธรรมในแง่มุมต่างๆ ของพุทธศาสนา คำสอนเหล่านี้จะช่วยให้บุคคลสามารถนำหลักธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

พิธีกรรมและการถวายเครื่องบูชา : การเข้าร่วมพิธีกรรมแบบดั้งเดิมและการทำบุญด้วยการถวายเครื่องบูชาถือเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ที่วัด ผู้เยี่ยมชมได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกเป็นชุมชนและความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ

บริเวณวัด
บริเวณวัดนาป่าพงได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะแก่การนั่งสมาธิ ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินเล่นในสวน ชมพระพุทธรูปอันเงียบสงบ และหามุมสงบเพื่อนั่งสมาธิ เสียงธรรมชาติอันผ่อนคลายช่วยเสริมประสบการณ์โดยรวม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับหลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน

การเข้าถึงและข้อมูลสำหรับผู้เยี่ยมชม
วัดนาป่าพงเป็นวัดที่สามารถเดินทางไปได้สะดวกจากกรุงเทพฯ จึงเป็นที่นิยมสำหรับทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว วัดเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน และไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าชม แต่สามารถบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาและกิจกรรมต่างๆ ของวัดได้

วัดนาป่าพงในจังหวัดปทุมธานีเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ธรรมะอย่างลึกซึ้ง ด้วยสภาพแวดล้อมที่สวยงาม การปฏิบัติธรรมที่น่าสนใจ และชุมชนที่เป็นมิตร จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ไม่ว่าคุณจะเป็นนักปฏิบัติธรรมผู้มากประสบการณ์หรือเป็นนักเดินทางที่อยากรู้อยากเห็น การไปเยี่ยมชมวัดนาป่าพงจะมอบประสบการณ์อันคุ้มค่าที่หล่อเลี้ยงจิตใจและจิตวิญญาณ

10
วัดอนาลโยทิพยารามธรรมสถานบนยอดดอยบุษราคัมใส่ชุดขาวปฏิบัติธรรม เพื่อความหลุดพ้นทางจิตวิญญาณหาความสงบในชีวิต

วัดอนาลโยทิพยารามเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยหลวงปู่ไพบูลย์เป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสอนธรรมแก่ชาวบ้าน วัดนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงเหมาะใส่ชุดขาว ชุดขาวชาย ชุดขาวหญิง ชุดขาวปฏิบัติธรรม มาเที่ยววัดอนาลโยทิพยารามโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระวิหารที่เป็นอาคารหลักของวัด

ซึ่งมีการแกะสลักลวดลายที่สวยงามและมีการประดับด้วยเครื่องประดับที่วิจิตรบรรจง วัดอนาลโยทิพยาราม ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพธรรมชาติอันสวยงามของจังหวัดพะเยา เป็นสถานที่เงียบสงบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำสมาธิและผู้แสวงหาจิตวิญญาณ วัดอันเงียบสงบนี้หรือที่เรียกกันว่าวัดอนาลโยทิพยารามตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ของดอยบุษราคัม และมอบความเงียบสงบให้ผู้มาเยือนได้พักผ่อนจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน

ภาพรวมของวัด
วัดอนาลโยทิพยารามก่อตั้งโดยพระอาจารย์มหาบัว เป็นวัดที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยและล้านนาแบบดั้งเดิมเข้ากับอิทธิพลจากพม่าและอินเดีย บริเวณวัดมีประติมากรรม เจดีย์ และศาลเจ้าที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างงดงาม สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนและการทำสมาธิ ศาสนสถานทางจิตวิญญาณแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบพะเยาและภูเขาโดยรอบ

โปรแกรมการทำสมาธิ
วัดแห่งนี้มีโปรแกรมการทำสมาธิหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ปฏิบัติธรรมที่มีประสบการณ์ โดยมีพระภิกษุผู้มีประสบการณ์เป็นผู้นำทาง ผู้เยี่ยมชมสามารถฝึกปฏิบัติสมาธิได้อย่างเต็มที่ ซึ่งได้แก่ เทคนิคการหายใจ การเดินอย่างมีสติ และการฝึกสมาธิ จุดมุ่งหมายคือการพัฒนาสติและความสงบภายใน ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเจาะลึกการเดินทางทางจิตวิญญาณได้ มีเซสชั่นมากมายที่ห้องปฏิบัติธรรมของวัด ซึ่งเปิดให้ผู้ที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการทำสมาธิหรือมองหาพื้นที่เงียบสงบเพื่อการไตร่ตรอง

คุณสมบัติที่โดดเด่น
หนึ่งในลักษณะเด่นของวัดแห่งนี้คือพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ซึ่งมองเห็นได้จากระยะไกลเนื่องจากตั้งเด่นเหนือบริเวณวัด พระพุทธรูปนี้เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และเป็นจุดศูนย์กลางของการทำสมาธิและการพิจารณาไตร่ตรอง สิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งคือวัดมหาโพธิ์จำลองในเมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ การเพิ่มส่วนนี้เข้าไปทำให้วัดมีบรรยากาศทางจิตวิญญาณมากขึ้นและเป็นเครื่องเตือนใจถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า

เคล็ดลับสำหรับผู้เยี่ยมชม
การแต่งกายให้สุภาพ : เช่นเดียวกับวัดไทยทุกแห่ง ผู้เยี่ยมชมจะต้องแต่งกายอย่างสุภาพเรียบร้อย
เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม : ช่วงเช้าตรู่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมวัด เพราะเป็นช่วงที่เงียบสงบ และอากาศเย็นสบายช่วยเสริมบรรยากาศที่เงียบสงบ
อยู่เงียบ ๆ : เนื่องจากเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม จำเป็นต้องรักษาความเงียบไว้เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่กำลังทำสมาธิและไตร่ตรอง
การถ่ายภาพ : แม้ว่าโดยทั่วไปจะอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ แต่ควรระวังอย่ารบกวนเซสชันการทำสมาธิหรือสถานที่อันเงียบสงบ
การเดินทางไปยังที่นั่น
วัดอนาลโยทิพยารามตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพะเยาประมาณ 19 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมวิว หรือเช่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เพื่อไปยังวัดได้ สำหรับผู้ที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มีรถประจำทางและแท็กซี่ให้บริการจากใจกลางเมืองพะเยา

การไปเยี่ยมชมวัดอนาลโยทิพยารามเป็นการเดินทางที่ทั้งสวยงามและเงียบสงบ ด้วยสภาพแวดล้อมที่งดงาม โครงสร้างที่มีความหมาย และความทุ่มเทในการทำสมาธิ วัดแห่งนี้จึงมอบสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบสำหรับผู้ที่แสวงหาความสงบภายในและการเติบโตทางจิตวิญญาณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักปฏิบัติธรรมผู้ช่ำชองหรือเพียงแค่กำลังมองหาสถานที่เงียบสงบเพื่อผ่อนคลาย วัดอนาลโยทิพยารามสัญญาว่าจะมอบประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมท่ามกลางธรรมชาติ

11
บ้านติดรถไฟฟ้า เฮ้าส์ 24 คูคตสเตชั่น (Haus 24 Khukhot Station)
เริ่มต้น 4.29 ลบ.

เฮ้าส์ 24 คูคตสเตชั่น (Haus 24 Khukhot Station)
ฮ้าส์ 24 คูคต สเตชั่น เติมเต็มคำว่า บ้าน 24 ชม. ติดถนนเลียบคลอง 3 ใกล้ BTS สายสีเขียว สถานีคูคต, รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีหลักหก

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             เฮ้าส์ 24 คูคตสเตชั่น (Haus 24 Khukhot Station)
 เจ้าของโครงการ        ลุมพินี-LPN ดีเวลลอปเมนท์
 แบรนด์ย่อย              เฮ้าส์ 24
 ราคา                     เริ่มต้น 4.29 ลบ.

 ประเภทบ้าน           บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด
 ลักษณะทำเล          บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ         23 ไร่
 จำนวนบ้าน            127 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด      2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน            ตั้งแต่ 35.1 ถึง 50 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย          ตั้งแต่ 162 ถึง 191 ตร.ม.
 จำนวนชั้น            2 ชั้น
 หน้ากว้าง              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน       ตั้งแต่ 2 ถึง 3 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ       2 คัน
 สาธารณูปโภค           สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สนามเด็กเล่น

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน    ปทุมธานี, คลองหลวง, ธัญบุรี, ลำลูกกา
 ที่ตั้ง      ถนนเลียบคลองสาม ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานี(หมอชิต - คูคต)(คูคต)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สถานี(บางซื่อ - รังสิต)(หลักหก)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนเลียบคลองสาม ถนนลำลูกกา ถนนรังสิต - นครนายก)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง

ห้างสรรพสินค้า
Lotus’s ลำลูกกา คลอง 2
Big C ลำลูกกา คลอง 4
Big C สายไหม
Tops สายไหม
Zeer รังสิต
Future Park รังสิต
Max Valu
Lotus’s รังสิต-นครนายก
Market Village รังสิต

สถานศึกษา
รร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2
ม.นอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต
รร.ฤทธิยะวรรณาลัย
ม.เวสเทิร์น วิทยาเขตวัชรพล

สถานพยาบาล
รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา
รพ.ซีจีเอช สายไหม
รพ.บีแคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ กม.
รพ.แพทย์รังสิต
รพ.บางปะกอก-รังสิต 2
รพ.ภูมิพลอดุลยเดชฯ

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

12
ซ่อมบำรุงอาคาร: เคล็ดลับป้องกันน้ำซึมเข้าบ้านในช่วงฤดูฝน

ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝนแล้วหลังจากที่เราต้องทนร้อนมานานหลายเดือนแล้ว ต่อไปเราจะสัมผัสความเย็นชุ่มฉ่ำของสายฝนกันไปราว 5-6 เดือน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมพร้อมคือบ้านของเราเอง ต้องหมั่นตรวจสอบว่ามีมีจุดใดของบ้านมีรอยรั่วซึมหรือรอยแตกร้าวหรือไม่ หากพบว่ามีปัญหาเช่นนี้ จะต้องดำเนินการซ่อมแซมเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้ามาในบ้าน ถ้าหากเราไม่รีบแก้ไขปัญหานี้ น้ำฝนอาจจะรั่วซึมเข้ามาและทำให้เกิดความเสียหายแก่เฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ภายในบ้านได้


ปัญหาที่พบเจอกันบ่อย

ดังนั้นจุดที่ควรตรวจสอบและแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองได้แก่ :

ดาดฟ้า

มักจะเกิดการรั่วซึม บริเวณรอยต่อดาดฟ้าชนผนัง และบริเวณพื้นดาดฟ้าที่มีรอยแตกร้าว

Tips : หากดาดฟ้ามีน้ำขังบ่อย ควรเลือกใช้กันซึมชนิดซีเมนต์ เช่น จระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ ไม่ควรใช้กันซึมชนิดอะคริลิก เช่น จระเข้ รูฟ ชิลด์ เพราะจะเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าเมื่อต้องแช่น้ำเป็นเวลานานๆ


พื้นหลังคาคอนกรีตแตกร้าว

เช่น พื้นดาดฟ้าแตกร้าว พื้นเป็นแอ่ง น้ำขัง ทำให้เกิดน้ำรั่ว

Tips : แก้ไขโดยการปรับความลาดเอียงของพื้นให้น้ำไหลออกได้สะดวก และซ่อมรอยร้าว ทำกันซึมพื้นให้เรียบร้อย


หลังคา

หลังคาบ้านอาจเกิดรอยร้าวหรือรอยรั่วได้จากหลายสาเหตุ เช่น กระเบื้องร้าวหรือชำรุดเพราะใช้งานมานาน กระเบื้องยึดไม่แน่น กระเบื้องหลุด ช่างมุงกระเบื้องซ้อนกันไม่สนิทหรือระยะซ้อนทับน้อยเกินไป โครงสร้างหลังคาซับซ้อนมีรอยต่อมาก ฯลฯ

Tips : กระเบื้องที่แตกร้าวควรเปลี่ยนแผ่นกระเบื้องใหม่ ต้องมุงอย่างถูกต้องและใช้สกูรยึดให้แน่นหนา เพื่อไม่ให้น้ำรั่วซึม ส่วนรอยต่อระหว่างแผ่นกระเบื้องที่รั่วซึมนั้นให้ใช้ซีเมนต์สำหรับงานซ่อมอุดตามรอยรั่วซึม จากนั้นทาทับด้วยวัสดุกันซึมอีกชั้น หรือจะใช้แผ่นปิดรอยต่อช่วยบางตำแหน่งก็ได้ นอกจากนี้ รางน้ำฝนบนหลังคาบ้าน ก็ต้องทำความสะอาดเก็บกวาดเศษฝุ่น เศษดิน เศษใบไม้ใบหญ้า เศษขยะทิ้งให้เกลี้ยง เมื่อเวลาที่ฝนตกลงมาจะได้สามารถระบายน้ำลงจากหลังคาได้ทันด้วย มิเช่นนั้น อาจทำให้น้ำรั่วซึมลงได้


ผนัง

ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่ รอยต่อระหว่างผนังกับขอบวงกบ รอยแตกขอบมุมวงกบ และรอยแตกร้าวบนผนัง

Tips : หากสีของผนังเริ่มลอกล่อน ต้องขูดลอกสีเก่าออกก่อนลงมือซ่อมแซมรอยแตกร้าวและทากันซึม


ขอบวงกบประตู-หน้าต่าง

รอยร้าวนี้มักพบเพราะเกิดจากการยืดขยายตัวของอุณหภูมิ ทำให้เกิดรอยร้าวที่มุม และทำให้น้ำฝนรั่วซึมเข้ามา

Tips : แก้ไขโดยการตรวจสอบว่ามีเสาเอ็น ทับหลัง เหล็กกรงไก่หรือไม่ ถ้าหากมีครบให้เรียกช่างมาซ่อมรอยร้าวทันที


ประเภทของผลิตภัณฑ์ป้องกันน้ำรั่วซึม

มีผลิตภัณฑ์ป้องกันน้ำรั่วซึมหลากหลายแบบ แต่วันที่แอดขอยกตัวอย่างมา 3 แบบ ได้แก่ :

เทปสำหรับกันรั่ว ซึม

     ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เทปกันซึมแบบยืดหยุ่น กันน้ำ 100% ตาข่ายไฟเบอร์เสริมแรง สำหรับงานกันซึมในพื้นที่สัญจร เทปตาข่ายไฟเบอร์ชนิดมีกาวในตัวสำหรับปัญหาผนังแตกร้าว และเทปกาวอเนกประสงค์ แก้ปัญหารั่วซึมในหลากหลายพื้นที่


ซีเมนนต์กันรั่ว ซึม

     ซีเมนต์ผสมสำเร็จกันรั่วซึม เหมาะกับสระว่ายน้ำแบบขุด และพื้นที่ใต้ดิน และซีเมนต์กันรั่วซึมชนิดยืดหยุ่น แบบสองส่วนผสมสำหรับพื้นที่เปียกบนอาคาร และสระว่ายน้ำที่สร้างบนอาคาร


วัสดุทากันซึมดาดฟ้า โพลียูรีเทนและอะครีลิค

     วัสดุทากันซึมดาดฟ้า โพลียูรีเทนและอะครีลิคพร้อมใช้งานชนิดยืดหยุ่นสูง สารพัดประโยชน์ สำหรับดาดฟ้า หลังคา รอยต่อ และผนัง
สาเหตุของปัญหาน้ำซึมจากผนังข้างบ้าน


น้ำซึมผนังบ้านเพราะรอยแตกร้าว

สาเหตุหลัก เกิดจากรอยแตกร้าวที่ผนังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกร้าวแบบร่องลึก หรือรอยแยกขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ปัญหาเสาบ้านทรุด การใช้ปูนฉาบที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการผสมปูนที่ไม่ได้สัดส่วน

          เมื่อเกิดรอยแตกร้าวควรสังเกตลักษณะการแตกร้าวให้ดี เพราะหากเป็นรอยแตกร้าวเป็นเส้นตรงตั้งแต่มุมใดมุมหนึ่งยาวมาจนถึงกึ่งกลางผนัง หรือรอยแตกร้าวที่มีลักษณะเป็นเส้นตรงตั้งฉากบริเวณกึ่งกลางผนัง อาจต้องรีบติดต่อวิศวกรโครงสร้าง เพราะการแตกร้าวแบบนี้อาจเกิดจากโครงสร้างอาคารทรุดตัวซึ่งทำให้เกิดอันตรายได้
น้ำซึมเข้ากำแพงเพราะการแตกลายงา

     นอกจากรอยแตกร้าวขนาดใหญ่เป็นร่องลึกแล้ว รอยแตกลายงาก็เป็นอีกสาเหตุของน้ำซึมจากผนังข้างบ้านได้เช่นกัน เพราะรอยแตกลายงาเหล่านี้จะค่อย ๆ สะสมน้ำเอาไว้ เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งน้ำก็จะค่อย ๆ ซึมออกมาตามรอยแตกเหล่านี้ ดังนั้นเพื่อป้องกันน้ำซึมผนังบ้านก็ควรซ่อมแซมก่อนปัญหาจะบานปลาย


น้ำซึมผนังบ้านเพราะรอยแตกร้าว

     แน่นอนว่าเมื่อเป็นปัญหาเกี่ยวกับการรั่วซึมแล้ว ระบบประปาก็ต้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุน้ำซึมจากผนังข้างบ้านอย่างแน่นอน ซึ่งปัญหาจากระบบประปาจะสังเกตเห็นได้ชัดในเวลาที่ฝนไม่ตกแต่ก็ยังคงเกิดปัญหารั่วซึมอยู่ เกิดขึ้นได้ทั้งจากน้ำจากท่อประปาหรือน้ำจากท่อระบายน้ำ โดยส่วนมากมักเกิดในห้องที่ต้องใช้น้ำอยู่เป็นประจำ เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว

          ดังนั้นวิธีสังเกตปัญหาน้ำซึมผนังบ้านที่ง่ายที่สุด คือ ปิดวาล์วน้ำทุกจุดในบ้านแล้วสังเกตดูว่ามิเตอร์น้ำยังคงหมุนอยู่หรือไม่ หากยังหมุนอยู่แสดงว่ามีน้ำรั่วภายในบ้าน ควรค้นหาจุดรั่วซึมตามแปลนระบบท่อน้ำภายในบ้าน เมื่อพบตำแหน่งที่มีปัญหารั่วซึมเรียบร้อยแล้ว ควรรีบจัดการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด


ระบบกันซึมไม่ได้มาตรฐาน

     หนึ่งในสาเหตุสำคัญของน้ำซึมจากผนังข้างบ้านอาจเกิดขึ้นจากต้นเหตุอย่างการทำกันซึมด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีระยะเวลาการใช้งานสั้นลง ทำให้น้ำซึมเข้ากำแพงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


น้ำซึมจากใต้ดิน

     สำหรับที่อยู่อาศัยที่ประเภทอาคารพาณิชย์หรือตึกแถวอายุมากกว่า 30 ปี น้ำซึมจากใต้ดินก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของน้ำซึมผนังบ้าน ได้เช่นกัน เพราะอาคารเหล่านี้มักอยู่ต่ำกว่าระดับถนน และมีรูปแบบโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กวางบนดิน และชิ้นส่วนก็ยังแยกกับเสาและคาน จึงทำให้น้ำซึมผ่านรอยต่อระหว่างคาน ผนัง และแผ่นพื้นได้นั่นเอง

13
ไขข้อข้องใจกับไวรัสตับอักเสบเอ (hepatitis A virus)

โรคไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบเอ ซึ่งติดต่อกันได้ง่าย ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของตับ โดยระดับความรุนแรงมีได้ตั้งแต่ มีอาการเพียงเล็กน้อย ไปจนถึง ตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรง โดยทั่วไปโรคสามารถหายเองได้จนเป็นปกติ ภายใน 2 เดือน

ติดต่อกันอย่างไร ทางไหนบ้าง เชื้อไวรัสตับอักเสบเอ มักติดต่อผ่านทางการกินอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อนี้เข้าไป โดยอาจติดต่อผ่านทางอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือ ผ่านทางคนทำอาหารที่ติดเชื้อ แล้วรับเชื้อผ่านทางการกินอาหารนั้น นอกจากนี้เชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ยังสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อได้อีกด้วย

อาการเป็นอย่างไร โรคนี้รุนแรงหรือไม่ เมื่อได้รับเชื้อ บางคนไม่แสดงอาการของโรค แต่หากมีอาการ จะเริ่มมีอาการได้ประมาณ 2-7 สัปดาห์หลังได้รับเชื้อ โดยอาการของโรคมีได้ดังนี้

    ตัวเหลือง ตาเหลือง
    เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
    ปวด จุกแน่นท้อง ใต้ชายโครงขวา
    คลื่นไส้ อาเจียน
    ไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว
    ถ่ายเหลว

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ ถึงแม้ว่า ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่พบเชื้อนี้ได้บ่อยๆ (highly endemic area) และในผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ มักจะตรวจพบว่ามีภูมิต่อเชื้อนี้แล้ว แต่คนบางกลุ่มอาจจะมีความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคมากกว่าคนทั่วไป ได้แก่ ผู้ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคนี้ ผู้ที่ต้องอยู่ในสถานที่มีคนอยู่อย่างหนาแน่น เช่น สถานเลี้ยงเด็ก สถานพักฟื้น ชุมชนแออัด นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยบางกลุ่มที่อาจมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไปหากได้รับเชื้อ ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรัง และผู้ป่วยที่มีเชื้อ HIV

 การวินิจฉัยและการรักษา แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคไวรัสตับอักเสบเอ ด้วยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ ไวรัสตับอักเสบเอ เพื่อเป็นการยืนยันการวินิจฉัย

นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาตรวจการทำงานของตับเพิ่มเติม เพื่อดูความรุนแรงของตับอักเสบด้วย การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบเอ ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ และติดตามค่าการทำงานของตับอย่างใกล้ชิดในกรณีมีตับอักเสบรุนแรง โรคมักจะหายเป็นปกติ ภายใน 2 เดือน และโดยทั่วไปจะไม่เกิดตับอักเสบเรื้อรัง

 การป้องกันโรค และ การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ การป้องกันโรคที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ การกินอาหารปรุงสุก สะอาด และใช้ช้อนกลาง หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ ล้างมือเป็นประจำ หลังเข้าห้องน้ำ และก่อนสัมผัสอาหารที่จะปรุง หรืออาหารที่จะรับประทาน  อย่างไรก็ตาม การป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีน หากยังไม่มีภูมิคุ้มกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ โดยก่อนการฉีดวัคซีน แพทย์จะให้ตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้ก่อน หากยังไม่มีภูมิ จึงจะฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ โดยฉีดทั้งหมด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน

 ใครบ้างที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ เด็กที่อายุเกิน 2 ขวบ หรือ ผู้ใหญ่ที่ยังไม่มีภูมิต่อโรคนี้ สามารถฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอได้ และควรฉีดวัคซีนในกลุ่มคนที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่รุนแรง ได้แก่ ผู้ที่มีตับอักเสบเรื้อรัง หรือ ตับแข็ง ผู้ที่ดื่ม alcohol เป็นประจำ ผู้ที่มีเชื้อ HIV

14
ข้อดีที่คาดไม่ถึง ของการจัดฟันเด็ก

เด็กหลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากพฤติกรรมที่ทำในวัยเด็ก อาจส่งผลต่อฟันของ เด็กได้ ยกตัวอย่างเช่น พฤติกรรมการดูดนิ้ว พฤติกรรมการดูดขวดนม ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อรูปร่างของฟันทำให้โตมามีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างของฟันอย่างเห็นได้ชัด พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะคิดว่าฟันน้ำนมของลูกนั้นไม่มีความสำคัญ แต่ความคิดนี้เป็นความคิดที่ผิดเพราะว่าฟันน้ำนมส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ ซึ่งถ้าหากฟันน้ำนมหลุดก่อนวัยอันควรอาจจะทำให้ฟันแท้ที่งอกขึ้นมาแทนที่มีการขึ้นที่ผิดปกติ จะส่งผลทำให้มีรูปร่างและลักษณะฟันที่ผิดปกติตามไปด้วย

ดังนั้น วิธีการเข้ารับการจัดฟันในเด็กถือว่าเป็นทางออกและวิธีแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ตั้งแต่อายุยังน้อยหรืออายุต่ำกว่า 10 ปี ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้แล้ว แต่ช่วงอายุที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 7-10 ปี เพราะในวัยนี้ เด็กสามารถให้ความร่วมมือในการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้ ทำให้มีความรู้มีความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันในระหว่างการจัดฟัน เนื่องจาก เด็กส่วนใหญ่ยังละเลยในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน อาจจะทำความสะอาดฟันไม่ถูกวิธี

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องคอยให้คำแนะนำและทำให้เด็กมีความ เข้าใจเกี่ยวกับการมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพราะถ้าหากปล่อยไว้จะทำให้เด็กเติบโตมามีปัญหาเกี่ยวกับฟันได้ เพราะฉะนั้น ควรสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันให้เด็กได้ตระหนักถึงปัญหาของฟันว่า ถ้าหากเรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่ดี จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ เช่น บดเคี้ยวอาหารได้ลำบากมากยิ่งขึ้น และอาจจะส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพของเด็กได้ ซึ่งการเข้ารับการจัดฟันเด็กเด็กจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน

สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงข้อดีของการจัดฟันในเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อาจจะคาดไม่ถึงของ สำหรับข้อดีของการจัดฟันในเด็กนั้นแน่นอนว่าจะทำให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี นอกเหนือจากการที่ทำให้เด็กมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงามแล้วยังทำให้มีความมั่นใจและช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กได้หลายด้านเลยทีเดียว เพราะถ้าหากบุตรหลานของท่านมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ก็จะทำให้บุตรหลานของท่านทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ดียิ่งขึ้นและเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 ซึ่งต้องบอกว่าในเรื่องของความสะอาดของช่องปากและฟันถือเป็นสุขอนามัยเบื้องต้นที่เด็กจะต้องทำไปตลอดชีวิต ดังนั้น ในการปลูกฝังให้เด็กรู้จักวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธี ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากนี้หากเด็กมีพฤติกรรมการดูดนิ้วหรือดูดขวดนม ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อการสบฟันในอนาคตได้ ในการจัดฟันแบบใสก็สามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ไปได้ ทั้งนี้ ข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ยังช่วยทำให้เด็กออกเสียงได้ชัดขึ้น สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้นซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของเด็กด้วย ทั้งหมดนี้ก็คือ ข้อดีที่มาพร้อมกับการจัดฟันในเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะยังคิดไม่ถึงว่าการจัดฟันในเด็กนั้นมีประโยชน์ต่อบุตรหลานของท่านมากเลยทีเดียว

 สำหรับใครที่อยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก รวมไปถึงด้านทันตกรรมในเด็กในด้านอื่นๆด้วย จากประสบการณ์อย่างยาวนานในวงการทันตกรรมทำให้สามารถให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราอยากให้เด็กทุกคนมีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

15
จัดฟันเด็ก เพื่อฟันแท้ที่มีสุขภาพดีในอนาคต

ฟันแท้ของเรา ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะฟันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เป็นสิ่งที่เราต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน นั่นก็คือ การรับประทานอาหาร ฟันมีหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหาร สำหรับฟันแท้นั้น เป็นฟันชุดที่สองมีทั้งหมด 32 ซี่ ประกอบด้วย ฟันบน 16  ซี่ ฟันล่าง 16  ซี่ ซึ่งฟันแต่ละซี่จะมีรูปร่างและหน้าที่แตกต่างกัน  โดยฟันแท้ของเราจะงอกขึ้นมาในช่องปากครั้งแรกเมื่ออายุได้ 6 ขวบเป็นฟันกรามซี่ที่ 1 ล่าง

ถ้าดูจากในช่องปากจะอยู่หลังจากฟันน้ำนมซี่ในสุดเข้าไป ฟันซี่นี้อยากจะขอให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กช่วยกันดูแล เพราะคนส่วนมากมักคิดว่าฟันซี่นี้เป็นฟันน้ำนม เนื่องจากขึ้นมาในช่องปากโดยไม่ได้แทนที่ฟันน้ำนม  ฟันกรามซี่ที่ 1 มีความสำคัญมากเพราะเป็นซี่ที่สำคัญที่สุดในการบดเคี้ยวอาหารไปตลอดชีวิต หรือจะเรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญในการบดเคี้ยวอาหาร จึงมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในวัยเรียน เป็นอย่างมาก เด็กที่มีฟันผุมักจะมีร่างกายผอม ไม่แข็งแรง เด็กบางคนอาจมีผลทำให้ขาดอาหารได้ เพราะใช้ฟันเคี้ยวอาหารไม่สะดวก ใช้ฟันซี่อื่นไม่ถนัด ในการบดเคี้ยวดีเท่าฟันซี่นี้ อาจจะทำให้รู้สึกเบื่ออาหาร จนทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

นอกจากนี้ฟันแท้ซี่นี้เป็นแนวทางให้ฟันแท้ซี่อื่น ๆ ที่จะขึ้นต่อไป ขึ้นได้ตรงตามตำแหน่งทำให้การสบฟันทั้งปากเป็นปกติเป็นการป้องกันการเกิดฟันเกและฟันซ้อนในเด็ก อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกขากรรไกรให้สมบูรณ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ในเด็กบางรายที่มีฟันผุมาก จนทำให้เกิดการสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนเวลาอันควร ก็ทำให้เกิดปัญหาได้ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรพาบุตรหลานเข้ารับการแก้ไขโดยด่วน หรืออาจจะใช้วิธีการพาเด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้เด็กได้มีฟันที่สวย มีฟันแท้ที่มีสุขภาพดีในอนาคต

ซึ่งถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานของท่านเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีฟันที่สวยงาม ที่ฟันแท้ที่มีสุขภาพดี ก็ไม่อยาก อยากแรกเลยคือ เราควรปลูกฝังให้เด็กรู้จักวิธีการทำความสะอาดของช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อให้เด็กได้เข้าใจในการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันของตัวเอง หรือถ้าเด็กมีปัญหา พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อสร้างรากฐานเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ให้มีฟันแท้ที่มีสุขาพที่ดีในอนาคตได้

สำหรับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาเด็กเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี แบะไม่ต้องรอให้เด็กมีฟันแท้ขึ้นจนครบก็สามารถพาเข้าไปพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการจัดฟันได้ทันที เพราะการที่เราแก้ไขปัญหาฟันตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นหมายความว่า เด็กจะมีโอกาสที่เติบโตไปเป้นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพราะการแก้ไขปัญหาตั้งแต่เด็กๆ จะสร้างวินัย สร้างความเข้าใจ สร้างทัศนคติที่ดีในเรื่องของสุขภาพฟันต่อเด็กได้อย่างดีเลยทีเดียว แถมยังช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณี รวมไปถึงช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของโครงสร้างของใบหน้า

ช่วยปรับตำแหน่งลิ้น ช่วยทำให้เกิดการสมดุลของขากรรไกร เรียกว่า ช่วยทำให้เด็กได้มีสุขภาพฟันที่ดีและยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเด็กอีกด้วย เพราะรอยยิ้มในวัยเด็กถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน จะทำให้เด็กรู้จักกล้าแสดงออก ยยิ่งยิ้มสวยยิ้มเก่ง แน่นอนว่าจะเป็นที่ประทับใจให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองได้อย่าแน่นอน เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้ลูกของท่านมีฟันแท้ที่มีสุขภาพดี มีรอยยิ้มที่สดใส มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ก็ควรพาเด็กๆ เข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีในอนาคตได้

 ดังนั้น สิ่งที่สำคัญมากที่สุด ก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลานของท่านให้ดี ควรแนะนำให้เด็กรู้จักวิธีการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อจะได้ป้องกันการเกิดฟันผุ ขณะจัดฟัน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่เด็กและหลายคนมักจะพบเจอได้บ่อยนั่นเอง สำหรับใครที่อยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในเด็ก คอยให้คำปรึกษาอย่างถูกต้อง และสามารถช่วยแนะนำให้เด็กรู้จักการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากเพื่อที่จะได้ลดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันในอนาคต เพราะเราอยากให้เด็กเด็กทุกคนมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้เข้าใจในการดูแลช่องปากอย่างถูกวิธี เพื่อให้เรามีฟันที่แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หน้า: [1] 2 3 ... 75