head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: money expo 2024: เรื่องจริงจากใจ เจ้าของธุรกิจนำเที่ยว "ประเทศอินเดีย" สู้ต่อยัง  (อ่าน 99 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 779
    • ดูรายละเอียด
money expo 2024: เรื่องจริงจากใจ เจ้าของธุรกิจนำเที่ยว "ประเทศอินเดีย" สู้ต่อยังไงในวันที่ธุรกิจ หยุดชะงัก

หลังจากที่ทั่วโลก ประสบปัญหาโรคระบาด ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายๆ ประเทศต้องออกมาตรการปิดประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในวงกว้าง ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวต่างก็หยุดชะงักลงไป เจ้าของธุรกิจนำเที่ยวต่างก็ต้องหาช่องทางหารายได้เสริมเพื่อใช้จ่าย และหล่อเลี้ยงธุรกิจ

วันนี้เราจะพามาคุยกับ "คุณบี - ภัคภร ธันย์ธาดากุล" เจ้าของธุรกิจนำเที่ยว บริษัท อะเวย์ เวเคชั่น จำกัด "Away Vacation" ที่จัดทริปนำเที่ยวไปยังหลากหลายประเทศ และหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจมากๆ คือ "ประเทศอินเดีย" ค่ะ ประเทศที่ประสบปัญหาโรคระบาดอย่างหนักในช่วงต้น พบผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตรายวันเป็นตัวเลขค่อนข้างสูง จากภาพที่คนภายนอกมอง ก็อาจจะด้วยเรื่องของสุขอนามัย ความแออัดของผู้คน ความสะอาดต่างๆ แต่...เมื่อคุณบีทำธุรกิจนำเที่ยวประเทศอินเดีย ปัญหาต่างๆ ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักลง เพราะไม่มีการจองทัวร์ ไม่มีการท่องเที่ยวเลยในช่วงที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แล้ว แต่…นักท่องเที่ยว หรือลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ จะกล้าตัดสินใจไปเที่ยวกันแล้วหรือไม่?


คุณบี - ภัคภร ธันย์ธาดากุล
และที่คุณบีบอกว่า "ประเทศอินเดีย มีอะไรมากมายที่น่าค้นหา และน่าไปเยื่อนสักครั้งในชีวิต" คุณบีจะสามารถสร้างความมั่นใจ และความเชื่อใจจากลูกทัวร์ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไร มาติดตามไปพร้อมกันเลยค่ะ
 
ในวันแรกเริ่มที่ตัดสินใจทำธุรกิจนำเที่ยว ทำไมถึงเลือก "ประเทศอินเดีย"
 
ที่เลือก "ประเทศอินเดีย" เพราะอินเดียมีทุกอย่างครบจบในประเทศเดียวเลยค่ะ คนรวยก็รวยสุดๆ คนจนก็จนสุดๆ เช่นกัน และแต่ละเมืองของประเทศอินเดียก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น อยากไปไหว้พระทำบุญต้องไปเส้น 4 สังเวชนียสถาน ที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เส้นทางนี้เป็นเส้นทางทำเงิน ทำรายได้ให้กับประเทศอินเดียอย่างมหาศาล ก็เงินทำบุญจากคนไทยเรานี่แหละค่ะ ทุกปีตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 6 เดือนนี้ถือเป็นช่วงแสวงบุญ ต้องมุ่งตรงมายังเมืองพุทธคยา บางคนมาติดกันทุกปีค่ะ เคยถามลูกทัวร์ว่าไม่เบื่อบ้างหรือมาไหว้พระ สวดมนต์ ทุกปี ถนนหนทาง ห้องน้ำก็ไม่ค่อยสะดวกสบายเหมือนเส้นทางอื่น ทุกคนตอบเหมือนกันค่ะ ว่าไม่เบื่อ รู้สึกปิติ อิ่มบุญทุกครั้งที่มา ปลื้มค่ะ
 

จากที่บอกว่าอินเดียมีเสน่ห์ในแต่ละเมืองไม่เหมือนกัน อย่างบางท่านศรัทธาในเทพฮินดู องค์พระพิฆเนศ พระศิวะ ก็จะมีไปกราบไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองอื่นๆ เช่น ทางตอนใต้ของอินเดีย หรือถ้าเราไปทางตอนเหนือของอินเดียเราก็ได้อารมณ์แบบประเทศอังกฤษ เมืองดาร์จีลิ่ง ปลูกชาเยอะ อากาศหนาวเย็นชิลสบายๆ ค่าใช้จ่ายที่อินเดียก็ไม่ได้แพงมาก อยากพักโรงแรมหรูๆ ที่นี่ก็มีเยอะ เช่นที่เมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน โรงแรมนี่เหมือนพักอยู่วังเลย ราคาต่อคืนประมาณ 3,000 - 4,000 บาท ก็ได้เป็นมหารานีในชั่วข้ามคืนแล้วค่ะ
 
ทำธุรกิจนี้มานานแค่ไหน ก่อนประสบปัญหาทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก
 
จริงๆ แรกเริ่มเลย คือช่วยเพื่อน ช่วยผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกัน บีสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ชอบงานบริการค่ะ ก็ช่วยมาประมาณ 3-4 ปี ถึงมาเปิดบริษัทเอง ใช้ชื่อ "Away Vacation" แต่พอตัดสินใจเปิดบริษัทปุ๊บ (ช่วงปลายปี 2020) โควิดมาค่ะ ต้องหยุดอยู่บ้านจริงๆ ประมาณ 1 ปีเต็ม
 
มีการปรับตัวอย่างไร เพื่อให้ธุรกิจคงอยู่ และจะสามารถดำเนินต่อไปได้ 
 
ปรับตัวยังไง ช่วงแรกเลยก็อยู่บ้าน อยู่กับครอบครัวนานที่สุดค่ะ เพราะเป็นช่วงล็อกดาวน์ด้วยทำอะไรไม่ได้เลย แต่...ถึงจะเดินทางไปไหนไม่ได้ บีก็ยังทำธุรกิจขายตั๋วเครื่องบินบ้าง ช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม ปี 2020 เริ่มมีคนออกเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ไปตุรกีบ้าง ก็จะขายตั๋วได้เยอะอยู่ช่วงนั้น หาไฟท์ให้กลุ่มคนที่ติดค้างอยู่ต่างประเทศกลับไทยก็เยอะค่ะ แล้วก็ลองจัดทัวร์ในไทยดูวัดสวยๆ ในเมืองไทยมีเยอะแยะเลย ก็จัดไปอีสานบ้าง ทางใต้บ้าง จะไปได้ดีอยู่แล้ว โควิดมาระบาดอีกรอบ ก็เลยตัดสินใจเดินทางดีกว่า
 
พอดีบีมีเพื่อนอยู่ที่ปากีสถาน ครอบครัวเค้ามีธุรกิจโรงแรมอยู่ที่เมืองฮุนซ่า อยู่ทางตอนเหนือของปากีสถาน บีก็ไปยื่นขอวีซ่า ทางสถานทูตปากีสถานก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว ก็ขอนัดคุยด้วย บอกอยากให้ช่วยโปรโมทประเทศปากีสถานให้คนมาเที่ยวเยอะๆ เหมือนที่เราจัดไปอินเดียค่ะ ที่ปากีสถานก็จะมีพระพุทธศาสนาสมัยพระเจ้าอโศกไปเผยแผ่ไว้ เมืองตักศิลา มีสถูป พิพิธภัณฑ์เยอะแยะ ก็ตัดสินใจไปเซอร์เวย์ด้วยเลยค่ะ
 

 
บีไปอยู่มาปีนึงพอดีค่ะ ที่ปากีสถานนักท่องเที่ยวเยอะ ชาวต่างชาติเยอรมัน รัสเซีย มาปีนเขากัน พอไปอยู่ก็ไปทำอาหารไทยขายให้แขกที่มาพักที่โรงแรมทานกัน ใครที่เคยมาเมืองไทยจะรู้อยู่แล้วว่า อาหารไทยขึ้นชื่อ ทำพวกต้มยำกุ้ง ต้มยำไก่ ผัดกะเพรา ผัดไทย ขายดีมากค่ะ แต่ช่วงหน้าหนาวคือธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ โรงแรมบนนั้นจะปิดหมด เพราะมันหนาวมาก -20 องศาได้ ช่วงนั้นก็ออกเซอร์เวย์ตามรอยพุทธศาสนา ไปมาหลายเมืองค่ะ ได้ข้อมูลเยอะแยะเลย..
 
พอช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อินเดียเปิดประเทศแล้ว ถึงเวลาต้องกลับบ้าน แต่...ทำยังไงจะเรียกความมั่นใจจากลูกค้าที่กลัวให้กลับมาเดินทางเหมือนเดิมล่ะ? เพราะเราไม่สามารถรับรองหรือบอกใครๆ ได้ว่า โรคนี้ไม่น่ากลัวนะ ไม่ร้ายแรง ก็เลยตัดสินใจจัดทริปแรกเลยไปพุทธคยา นาลันทา พาราณาสี พอดีมีงานแห่สาธยายพระไตรปิฏกที่พุทธคยาด้วย โอ้โห! 2 ปีไม่ได้เหยียบอินเดีย ที่แรกที่ได้ไปคือพุทธคยาตามที่ขอไว้ว่า จะขอไปกราบพระพุทธองค์เป็นที่แรกที่จะเริ่มทำงาน กรุ๊ปเราไปกัน 16 ท่าน ใส่แมสกันถ้วนหน้า คนที่อินเดียมองเราแล้วถามว่า โควิดที่เมืองไทยยังมีอยู่หรอ ที่นี่ฉีดยากันแล้วทุกคน ทุกบ้าน คือปูพรมฉีดให้ถึงที่ทุกหลังคาเรือน แล้วฉีดแค่ 2 เข็มเท่านั้นเอง ไม่มีเข็ม 3-4-5 เหมือนบ้านเรา วัคซีนเค้าผลิตเองด้วย อินเดียเรื่องยายกให้เค้าเลย เราก็กลัวๆ กล้าๆ แอบถอดแมสบ้าง กลับมาไทยก็ตรวจกักตัว ก็รอดนะคะบอกลูกค้าว่าอินเดียไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
 
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจเดินต่อกับธุรกิจนำเที่ยว แม้จะเคยประสบปัญหาต่างๆ มากมาย   
 
อาชีพสะพานบุญเป็นอะไรที่ถึงทำไปไม่ได้กำไรเป็นเงินทอง แต่มันได้สะสมบุญนะคะ คิดแบบนี้ว่าปัญหามีทุกคนแหละค่ะ แต่มันอยู่กับเราไม่นาน ค่อยๆ คิดค่อยแก้เดี๋ยวก็ผ่านไปได้
 

ความแตกต่างของประเทศอินเดียในวันแรกที่รู้จัก จนวันนี้ในปัจจุบัน   
 
ประเทศอินเดียตอนนี้พัฒนาไปเยอะ สมัยก่อนถนนไม่ดีอย่างมาก ต้องนั่งรถไฟแล้วมาต่อรถอีกทอด ลำบากมากกว่าจะมา 4 สังเวฯ แต่ละทริป แต่ปัจจุบันนี้ถนนหนทางสร้างเป็นเลนใหญ่โต ความสะอาดก็ดีขึ้นเยอะค่ะ สามารถซื้อของข้างทางทานได้..ค่าครองชีพที่อินเดียจะถูกมาก เงิน 20 รูปีของเค้า เทียบเงินบาทก็ประมาณ 10-11 บาท บ้านเรา แต่เค้าสามารถซื้อกับข้าวมาทำทานทั้งครอบครัวได้เลยใน 1 วัน
 
หลังจากเปิดประเทศ มีออกทริปไปที่ไหนมาแล้วบ้าง และกระแสตอบรับของนักท่องเที่ยว ที่มีต่อธุรกิจทัวร์ หลังจากผ่านปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจมาได้ เป็นอย่างไร 
 

หลังจากเปิดประเทศ บีจัดทริปไปอินเดียมา 2 ครั้งแล้วค่ะ ไปปากีสถานทริปนึงเพิ่งจะกลับมา แล้วก็ปลายสิงหานี้มีจัดไปซาปา เวียดนามเหนือ ช่วงข้าวออกรวง เขียวขจี สวยงามมาก กระแสตอบรับของลูกค้าค่อนข้างดี มีบ้างที่ยังกลัว และกังวลกับโรคที่ยังอยู่ขณะนี้ อันนี้บีถือเป็นปัจจัยหลักของการทำธุรกิจทัวร์เลย ต้องสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าให้ได้ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็มีส่วนแต่น้อย กำลังซื้อทัวร์ของลูกค้ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีค่ะ ตอนนี้ทัวร์ยุโรปคนออกเที่ยวกันเยอะมาก ยอดจองทำวีซ่าข้ามเป็นเดือนเลยค่ะ ในส่วนทัวร์อินเดียของบีมีกรุ๊ปจองประมาณ 5-6 กรุ๊ป เริ่มตั้งแต่พฤศจิกายน จนถึงกุมภาพันธ์ ปีหน้า และก็มีญี่ปุ่น 2 กรุ๊ป ประเทศอื่นๆ อีกอย่างละกรุ๊ป พอใจแล้วค่ะ ลูกค้ายังเชื่อมั่น ไว้ใจ ให้ความเมตตานึกถึงเราเสมอเวลาจะไปเที่ยว
 

การจะไปเที่ยวประเทศอินเดียต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และมีเรื่องอะไรที่พึงระวัง     
 
ไปประเทศอินเดียเดี๋ยวนี้สบายค่ะ เตรียมเงินไปทำบุญกับช็อปปิ้งก็พอ ที่ต้องระวังก็เรื่องอาหารค่ะ ถ้าไปในที่ๆ เคยพากรุ๊ปไปเที่ยว บีจะมีร้านประจำตั้งแต่ภัตตาคารหรูๆ จนถึงร้านตามสั่งข้างทางที่ค่อนข้างมั่นใจว่าสะอาด และอร่อย ลูกค้าไม่มีปัญหาเรื่องอาหารเป็นพิษแน่นอน เรื่องอื่นไม่มีอะไร คนอินเดียตัวเค้าจะดำแต่จิตใจเค้าดีนะคะ อัธยาศัยดีเป็นมิตรมากค่ะ

 
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ถ้าได้ไปเยือนดินแดนพุทธภูมิ   
 
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอินเดียมีเยอะมากค่ะ ถ้าอยากสัมผัสหิมะ ต้องไปแคชเมียร์ สิกขิม ชิมลา มะนาลี อากาศดี สวยงาม แต่ถ้าอยากเที่ยวแบบสมัยใหม่บีแนะนำให้ไปมุมไบ เดลี โกลกัลต้าเลยค่ะ ห้างให้ช็อปปิ้งเยอะแยะ แต่ถ้าแสวงบุญต้องมาพุทธคยา พาราณาสีค่ะ แม่น้ำคงคาเป็นอะไรที่ "ที่สุด" แล้วจริงๆ ทุกอย่างหาดูได้ในวิถีชีวิตแม่น้ำคงคานี่แหละค่ะ บีฝากไว้นะคะ ซักครั้งนึงในชีวิตอยากให้ไปเยือนประเทศอินเดียค่ะ แดนพุทธภูมิ สังเวชนียสถาน เปลี่ยนชีวิตผู้ที่ไปเยือนมาหลายต่อหลายคนแล้วค่ะ