head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: 6 อาหารบำรุงสมองกินดีห่างไกลโรค  (อ่าน 347 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 812
    • ดูรายละเอียด
6 อาหารบำรุงสมองกินดีห่างไกลโรค
« เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2024, 16:20:37 น. »
6 อาหารบำรุงสมองกินดีห่างไกลโรค

ในปัจจุบันเนื่องจากพฤติกรรมการกิน ของคนไทยทำให้โรคเกี่ยวกับสมอง ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งอยู่ในกลุ่มโรคระบบประสาทเฉลี่ย 4 นาทีต่อคน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองตีบนี้เป็นสาเหตุอันดับ 2 ของโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากทั่วโลกรองจากโรคมะเร็ง จะเห็นได้ว่าโรคเกี่ยวกับสมองเป็นอีกโรค ที่ไม่ควรละเลยสำหรับคนไทยนอกจากโรคมะเร็ง

 นักโภชนาการ ได้แนะนำไว้ว่าหากเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง นอกจากช่วยบำรุงสมองแล้ว ยังป้องกันการเสื่อมของสมองก่อนวัยอันควรอีกด้วย เราจึงควรที่รับประทานอาหารที่บำรุงสมองเพราะสมองก็ต้องการการดูแลไม่ต่างกับอวัยวะ ส่วนอื่นๆ เช่นกัน มาดูกันว่าอาหารบำรุงสมองมีอะไรบ้าง

1. ซุปไก่สกัด

         ซุปไก่สกัด ประโยชน์เป็นที่รู้จักกันดีตั้งแต่โบราณ ตามความเชื่อของชาวจีนแล้วว่ากันว่าเป็นอาหารบำรุงกำลัง   ทุกวันนี้เรามักจะดื่มซุปไก่สกัดเพื่อฟื้นฟูร่างการจากการเจ็บป่วย ความเหนื่อยล้า หรือแม้แต่ดื่มบำรุงสมองในช่วงเตรียมสอบ

         ปัจจุบันซุปไก่สกัดถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ หรือเพิ่มคุณประโยชน์ให้มากขึ้น เป็นอาหารในรูปแบบอาหารฟังก์ชัน (Functional food) ซึ่งหมายถึง สารอาหารตามธรรมชาติ ที่มีสารอาหารเพิ่มเติมจากอาหารหลัก นำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง


2. แปะก๊วย

         เป็นพืชสมุนไพรที่รู้จักกันมาอย่างช้านาน ช่วยป้องกัน โรคสมองเสื่อม อาการหลง ๆ ลืม ๆ รวมถึงโรคซึมเศร้า จึงนิยมแนะนำให้ใช้เพื่อปรับปรุงระบบไหลเวียนโลหิตในสมอง เพราะเมื่อสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ย่อมเสื่อมสมรรถภาพและฝ่อไปในที่สุด ส่งผลต่อการทำงานและประสิทธิภาพของสมอง และยังมีการสกัดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อ บำรุงสมอง อีกด้วย


3. ปลาทะเล

         ปลาทะเลเป็นแหล่งอาหารที่เป็นประโยชน์ อย่างแร่ธาตุ ไอโอดีน ซึ่งหากในวัยเด็กได้ ไม่ได้รับแร่ธาตุอย่างเพียงพอทำให้เด็กไม่เจริญเติบโตไปตามวัยอีกด้วย ปลาทะเลมีหลายชนิด กลุ่มที่เหมาะแก่การนำมาเป็น อาหารบำรุงสมอง เป็นพิเศษ คือกลุ่มปลาทะเลไขมันสูง เช่น ซาร์ดีน ทูน่า แซลมอน แมกเคอเรล เนื่องจากปลาดังกล่าวเป็นแหล่งกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งครึ่งหนึ่งของไขมันในสมองเป็นไขมันชนิดนี้ กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารบำรุงสมองที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองได้อย่างดี สามารถชะลอความเสื่อมของสมองที่เป็นไปตามอายุที่มากขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า ผู้ที่กินปลาไขมันสูงเป็นประจำจะมีสมองเนื้อเทา มากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้กิน โดยสมองเนื้อเทาดังกล่าวเป็นส่วนที่ควบคุมความจำและความนึกคิด

         ในด้านการบำบัดรักษาอาการทางสมองอื่นๆ เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ พบว่าโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่ออาการซึมเศร้า ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของยาต้านซึมเศร้า รวมถึงยังส่งผลให้อาการไบโพลาร์ดีขึ้นอีกด้วย


4. ไข่ต้ม

         ไข่ต้มคืออาหารที่หากินได้ทั่วไปแต่มีประโยชน์อย่างมหาศาล ก็เป็นอาหารที่ทุกคนสามารถรับประทานได้ในราคาที่ไม่แพง และยังช่วยบำรุงสมอง เพราะในไข่แดงอุดมไปด้วยโคลีน และวิตามินบี ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว สมองก็จะใช้โคลีนในการสร้างสารสื่อประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกั­­­บความจำและการสื่อสาร โดยการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตันแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่รับประทาน­­­­ไข่และบริโภคอาหารที่มีสารโคลีนเข้าไปเป็นประจำจะสามารถทำแบบท­­­ด­สอบได้ดีกว่าคนที่ไม่รับประทานไข่

          นอกจากนี้ไข่ยังอุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน สารต้านอนุมูลอิสระประเภทแคโรทีนอยด์ที่มีความสำคัญต่อเซลล์ประสาทตา ช่วยป้องกันอาการล้าสายตาระหว่างอ่านหนังสือสอบได้อีกด้วยล่ะ


5. ดาร์กช็อกโกแลต

         ดาร์กช็อกโกแลตทำมาจากผงโกโก้ ซึ่งมีคุณค่าและให้สารอาหารบำรุงสมองที่มีคุณประโยชน์มาก หากบริโภคอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณเหมาะสม มีงานวิจัยจำนวนหนึ่งพบว่า ดาร์กช็อกโกแลตสามารถออกฤทธิ์ปรับอารมณ์ของมนุษย์ให้ดีขึ้นได้ โดยเป็นผลมาจากสารโพลีฟีนอล ที่มีอยู่ นอกจากนี้มันยังช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า อ่อนล้า และอาการเหน็ดเหนื่อยเรื้อรังไปได้


6. ขนมปังโฮลวีท

         ขนมปังโฮลวีทจัดเป็นคาร์บเชิงซ้อนที่ร่างกายจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลแล้วดึงไปเป็นพลังงานของร่างกาย ซึ่งเมื่อการดูดซึมเป็นไปอย่างเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ร่างกายก็จะมีพลังงานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ง่วงซึมเร็วนัก แถมยังไม่สะกิดต่อมหิวบ่อย ๆ ให้ต้องลุกไปหาอะไรรองท้อง ขาดสมาธิการอ่านหนังสือสอบเป็นช่วง ๆ กลับมาอ่านต่อก็ไม่ค่อยมีสมาธิแล้ว