มอเตอร์เอ็กซ์โปร์: ขับรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 400 โล เวลาจำกัดชาร์จบ่อยไหม?หลายคนลังเลว่าถ้าสนใจจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคันแต่กลัวปัญหาเรื่องการชาร์จ ออกต่าง ๆ จังหวัดจะไหวไหม ลำบากไหม ต้องแย่งหัวชาร์จเป็น "นักสู้หน้าตู้ชาร์จหรือไม่" หรือว่าจะใช้เวลาเยอะต้องวางแผนอย่างไรในการเดินทาง ระยะทางที่วิ่งได้จะเพียงพอไหม? หลายคำคามที่ต้องหารคำตอบครับ!
ขับรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 400 โล เวลาจำกัดชาร์จบ่อยไหม?
enlightenedครั้งนี้จึงทดลองด้วยตัวเองเหมือนกับว่า "ถ้าหากซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานและเป็นคันเดียวของบ้าน" มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไกลแบบต่อเนื่อง ๆ มันจะไหวหรอ และวางแผนยุ่งยากแค่ไหน?
ผมเลือกรถยนต์ไฟฟ้าทดสอบที่มีระยะทางและสมรรถนะที่ขับสนุกอย่าง new MG 4 V Long Range รถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่ากับราคามากที่สุดในกลุ่มระดับเดียวกับในตอนนี้ เพราะได้ทั้งสมรรถนะ เทคโนโลยี ความปลอดภัยและ แบตเตอรี่ลูกใหญ่ 64 kWh ที่วิ่งได้สูงสุด 540 กม.ต่อชาร์จ (NEDC) กับขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ โดยด้านหลังอิสระ 5 ลิงค์ และเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง 1 เดียวในกลุ่มราคานี้
แต่ไม่ว่าสมรรถนะจะดีแค่ไหนสิ่งที่สำคัญกว่าคือ ระยะทางที่วิ่งได้จริง ๆ ไม่ว่าจะใช้มาตรฐานอะไรมาวัดระยะทางก็ตามสุดท้ายตอนลองขับเอง ถึงจะรู้ว่า ระยะทางที่เคลมไว้กับความเป็นจริงใกล้เคียงหรือไม่ และจะตอบสนองความต้องการใช้งานได้แค่ไหน เอาล่ะ... ผมจึงขอทดลองด้วยตัวเองเลย โดยใช้ภาระกิจชีวิตจริง!
จากทริปนี้ใช้ระยะทางรวมกว่า 464 กม. รถที่นำมาใช้วิ่งได้ 540 กม. NEDC ซึ่งความจริงต้องหักลบออกไปราว ๆ 100 กม. ไว้ก่อน สรุปคือจะวิ่งได้จริง ๆ ก็ประมาณ 280 - 300 กม. ต้องรีบหาจุดชาร์จแล้ว smiley ซึ่งครั้งนี้จะขับให้ระยะระดับแบตฯ ไม่ต่ำกว่า 40-45% หรือระยะทางคงเหลือ ไม่ต่ำกว่า 150 กม. เพื่อความปลอดภัยและเพื่อว่าเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึงเมื่อถึงตู้ชาร์จ!!!
ยิ่งยาว ๆ 400 กว่ากม.
ระยะทาง 400 กม. แวะชาร์จแค่ 2 ครั้ง!
ชาร์จไฟจากบ้าน (Wall Box) สะดวกหน่อย
7.00 น. เริ่มออกเดินทางจากกทม. (วัชรพล) มุ่งหน้าโรงแรมแกรนด์ พาลาสโซ่ พัทยา เหนือ ระยะทางประมาณ 141 กม. โดยการชาร์จไฟเต็มจากบ้าน (Wall Box) ได้ไฟมา 100% แต่ระยะทางที่โชว์บนมาตรวัดได้แค่ 459 กม.!!! แต่ก็นะเราขับไปชาร์จไปอยู่แล้ว แต่มีข้อแม้ว่าต้องถึงที่หมายแรกก่อน 9.00 น. เพื่อจะเดินทางไปหัวหินต่อให้ทัน 15.00 น.
ขับตามกฎหมายกำหนดมีแซงบ้างเป็นปกติ
รถไหว...คนละลาย....รถทดสอบไม่มีฟิล์มครับผมมม!!!!
การเดินทางใช้ถนนวงแหวนและเข้าสู้มอเตอร์เวย์เป็นหลักความเร็วทั่วไปตามกฎหมายกำหนด มีเร่งแซงบ้าง บางจังหวะก็เร่งสุดคันเร่งบ้าง แต่ก็ใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับการจรา ซึ่งการเดินทางวันเสาร์รถค่อนข้างเยอะใช้ความเร็วมากไม่ได้ จึงขับตาม ๆ กันไปเรื่อย ๆ
จุดหมายแรกทันเวลาสบาย ๆ
9.10 น. มาถึงโรงแรมแกรนด์ พาลาสโซ่ พัทยา เพื่อรับภรรยาโดยมาเลทไปนิด ๆ โดยระดับแบตฯ อยู่ที่ 65% ระยะทางคงเหลือ 283 กม. นับว่าใช้ได้เลย แต่ถ้าจะไม่ชาร์จเลยก็จะเสี่ยงเกินไป จึงขับวนหาอีก 8 กม. ถึงจุดชาร์จที่บิ๊กซี พัทยา 2 ที่ว่างและจองได้ และใช้เวลาชาร์จแบบชิว ๆ คือ ราว ๆ 30 นาที
ได้ไฟมาเยอะไปได้เกินครึ่งทางแน่ ๆ
ไปกันต่อ............
ครบ 35 นาทีนิด ๆ เราได้ไฟมา 95% ระยะทางเพิ่มเป็น 433 กม. คาดว่าน่าจะขับได้เกินครึ่งทางและเมื่อขับจนถึงจุดช่วงน้ำท่วมขัง ต.บางโทรัด สมุทรสาคร รถติดหนักมาก จึงแวะพักพร้อมชาร์จไฟอีกรอบไปเลยครับ
รถติดจัด ๆ แวะเข้าแั้มดีกว่า
ในจุดนี้เมื่อขับถึงจุดชาร์จแบตเตอรี่เหลือ 42% ระยะทางเหลือ 179 กม. และใช้เวลาในการชาร์จราว ๆ 30 นาที ด้วยกำลังไฟไหลเอื่อย ๆ ที่ 31 kWh แต่ก็ได้ไฟเพิ่มขึ้นมาเป็น 87% และได้ระยะทางเป็น 393 กม. นับว่ารวดเดียวถึงแน่นอนครับ
รวดเดียวถึงหัวหิน
ไปกันต่อแบบรวดเดียวถึง Merriott หัวหินด้วยระดับแบตฯ คงเหลือ 55% ระยะทางเหลือ 236 กม. นับว่าสบาย ๆ เลยครับ ภาระกิจที่ว่านั้นคือมาร่วมงานเลี้ยงนั่นเอง หลังจากนี้ก็ขับกลับที่พักที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก
การแสดงของคุณ "บุรินทร์"
ขับไปชาร์จไปกว่า 460 กม. สบายและทันเวลา!
สรุปการเดินทางสำหรับวันนี้ที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบรัว ๆ จากกทม.ไปพัทยาและมาหัวหิน ระยะทางรวม 460 กม. (ยังไม่รวมขับหลงหรือเลย) แวะชาร์จทั้งหมดตั้งแต่ออกจากบ้านคือ 3 ครั้ง ครั้งแรกชาร์จจากบ้าน ครั้งที่ 2 ชาร์จที่พัทยาและครั้งที่ 3 ชาร์จแถว ๆ สมุทรสาคร นับว่าไม่มีเรื่องติดขัดอะไรมากนัก น้อง "ล้ม" MG 4 V คันนี้ใช้งานได้สบาย ๆ เลยครับ สามารถขับไปชาร์จไปได้ตามสะดวกเจอสถานีบริการชาร์จที่ไหนก็แวะเข้าไปพักรถพักคนรอชาร์จได้เลย
วันรุ่งขึ้นเดินทางกลับกรุงเทพฯ แวะชาร์จที่สถานี้หัวหินจนได้ 90% ระยะทางเพิ่มเป็น 405 กม. ขับกลับได้สบาย ๆ เลยครับ และเมื่อถึงบ้านไฟแบตฯ คงเหลือ 47% ระยะทาง 201 กม. สำหรับผม MG 4 รุ่น V (LongRange) นับว่าใช้งานได้ยาว ๆ คุ้มค่าและเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายและคลอบคลุมทั้งในเมืองและนอกเมือง รวมถึงการเดินทางไกล ๆ ที่อาจจะแวะชาร์จไม่บ่อยและใช้เวลาชาร์จต่อครั้งราว ๆ 30 นาที ก็ไปต่อได้อีกหลายกม. แล้วครับ เมื่อเทียบกับสมรรถนะ เทคโนโลยีต่าง ๆ ความสะดวกสบายที่มีให้และราคา 889,900 บาท ในรถระดับนี้แล้ว ผมกล้าฟันธงเลยว่าคุ้มมาก ๆ ได้พลังความแรงขับสนุกแบบไม่กั๊กและยังได้ระยะทางวิ่งมากอีกด้วยในคันเดียวครับ
จบทริปปลอดภัย
สำหรับค่าชาร์จไฟฟ้าทั้งหมดเฉพาะชาร์จที่สถานบริการรวมทั้งหมดเพียง 500 กว่าบาท ถ้ารวมกับชาร์จจากที่บ้านก็ไม่เกิน 600 บาท เท่านั้นเองครับ นับว่าประหยัดค่าเดินทางไปได้มากมายเลยเมื่อเทียบกัยการต้องใช้น้ำมันอย่างต่ำ ๆ ก็ต้องมี 1,500 บาทแน่ ๆ ครับ
ทิ้งท้ายว่า "ผมไม่ได้เน้นว่าใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วจะดีไปหมด ขึ้นกับว่าความพอใจของแต่ละบุคคลและความสะดวกในการใช้งานที่แตกต่างกันไปครับ รถสันดาปก้ยังมีหลายทางเลือกให้ใช้งานและให้ความประหยัดอีกมากมายหลายรุ่น ในบทความนี้เพียงแสดงให้เห็นจากการใช้งานเท่านั้น"