งานมอเตอร์เอ็กซ์โปร์ Mercedes-EQS 500 ยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยม 7 ล้านบาทน่าใช้ไหม?ทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ไซซ์ยักษ์ Mercedes-EQS 500 4MATIC AMG Premium ราคา 6.2 ล้านบาท (มีส่วนลดจาก 7,200,000 บาท) มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสุดทั้งระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ พลัง 449 แรงม้า แรงบิด 828 นิวตันเมตร ระบบคับขับเลี้ยว 4 ล้อ ที่ความเร็วต่ำ หลังคาพาโนรามิครูฟเปิดส่วนหน้าได้ พร้อมแผ่นบังแดดบาง ๆ ส่วนภายในล้ำมาก ๆ ด้วยจอคนขับ จอกลาง จอฝั่งข้างคนขับ และมีจอสำหรับผู้โดยสารอีก 2 ฝั่ง รวบ 5 จอที่สั่งการแบบแยกอิสระได้ด้วย เบาะคู่หน้าไฟฟ้าพร้อมระบบนวดและหน่วยความจำ, ระบบเป่าลมร้อน ระบบปรับอากาศที่แยก 4 โซน หน้า-ซ้าย/ขวา และด้านหลัง นี่แค่อุปกรณ์ล้ำคร่าว ๆ ใน EQS 500 คันนี้เท่านั้น
ออกแบบเพื่อเป็น S-Class EV Primium
ภายนอกไฟหน้าแบบ Digital Light ที่สามารถหลบหลีกเมื่อเปิดไฟสูงในที่มืดและมีรถหรือแสงสว่างสวนทางมา ระบบไฟจะเว้าหลบตามแสงนั้น ๆ หรือเวลาเปิดไฟเลี้ยวจะมีไฟส่องด้านข้าง ไฟท้ายขนาดใหญ่และยาวลากผ่านส่วนท้ายโดเด่นชัดเจนด้วยลวดลาย ส่วนของหลังคากระจกที่ลาดเอียงและต่ำลงมาในสไตล์แบบคูเป้และฝากระโปรงท้ายที่เปิดแบบยกทั้งกระจก "LiftBack" ทำให้พื้นที่ใหญ่ ๆ อยู่แล้วยิ่งโปร่งโล่งกว้างขวางสะดวกในการเก็บสัมภาระมากขึ้น ส่วนล้ออัลลอยลาย AMG เรียบหรูสีเงินสลับดำขนาด 21 ลาย multi-spoke
ภายในต้องบอกว่าอาวกาศสุด ๆ เทคโนโลยีรอบตัวจนงงไปหมด เริ่มที่เปิดประตูเป็นมือจับแบบซ่อน ประตูไร้ขอบและจะลดกระจกลงครึ่งหนึ่งแบบเดียวกับในรถสปอร์ต เมื่อปิดประตูระบบก็จะปรับเบาะ พวงมาลัยและกระจกมองข้างที่เคยตั้งค่าเอาไว้ก่อนหน้าหรือปรับไว้ล่าสุด อัตโนมัติ สวิตช์ Start อยู่ที่ชุดควบคุมเล็กบนที่เท้าแขน เมื่อกดสตาร์ท หน้าจอคนขับและจอกลางจะเปิดขึ้นแสดงข้อมูลต่าง ๆ โดยจอคนขับจะเลือกรูปแบบใด 4 แบบ ตามชอบ ซึ่งทุกแบบจะมีข้อมูลการขับขี่แสดงไว้ครบถ้วน โดยเฉพาะระบบนำทางที่เมื่อใช้งานระบบที่ติดมากับรถยิ่งแสดงรายละเอียดได้ครบถ้วน ทั้งลูกศร ป้ายจราจร ระยะในการถึงจุดเลี้ยวหรือจุดหมาย
นอกจากนี้บนจอกลางยังแสดงภาพไฟจราจรเมื่อจอดแยกสัญญาณไฟได้ชัดเจนอีกด้วย บนคอนโซลกลางมีมาตรวัดระบบสะท้อนกระจก Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่รวมถึงการนำทางได้อย่างครบถ้วน แต่ระบบนำทางนี้มีข้อจำกัดคือ จะต้องเป็นระบบแสดงผลด้วยภาพเสมือนจริง MBUX ของ Mercedes หรือ Apple Map เท่านั้น หากใช้งาน Google Map จะโชว์เฉพาะบนจอกลาง เนื่องจากโปรแกรมยังไม่รองรับครับ
มาถึงเรื่องของท่านั่งขับขี่หากปรับเบาะและระดับของพวงมาลัยแล้ว หากระดับสายตาผู้ขับถูกก้านพวงมาลัยบัง "อินฟาเรดเซ็นเซอร์" ที่ซ่อนในมาตรวัด ระบบจะแจ้งเตือนว่า "ตรวจสอบระดับพวงมาลัยให้มองเห็นทั้ง 6 จุดที่อยู่รอบ ๆ ขอบส่วนบนของมาตรวัด เพื่อให้ตรวจจับ "อาการ" ผู้ขับขี่ที่เป็นส่วนหนึ่งในระบบป้องกันผู้ขับขี่ "หลับใน" หรือ "มีอาการผิดปกติ" จนอาจเกิดอันตรายได้ เป็นไงล่ะครับ ฉลาดสุด ๆ
5 จออลังการ ความบันเทิงทุกตำแหน่ง
ขยับมากลางคอนโซลหน้าที่มีจอสัมผัส MBUX แสดงรายละเอียดทุกอย่างของ EQS คันนี้ ทั้งฟังก์ชั่น EQ ใช้ดุเรื่องระบบการใช้พลังงาน การชาร์จ ฯลฯ หรือตั้งค่า (รูปรถ) สามารถปรับตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ ความปลอดภัย (ADAS) ได้ในเมนูนี้ การตั้งระบบไฟฟ้ารถยนต์ทั้งภายนอกภายใน ฯลฯ ส่วนเมนูรูป "ดอกไม้" หรือ "Comfort" เป็นการตั้งเกี่ยวกับระบบเบาะนั่ง การนวด ดันหลัง ปรับเลื่อนเบาะข้างคนขับ เป็นต้น และยังมีอีกหลายเมนูให้ใช้มากมายเช่น วิทยุ, สื่อบันเทิง, ข้อมูล และยังมี "ข้อมูล" เกี่ยวกับการใช้คันเร่งหรือเบรกพร้อมกราฟวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดอีกด้วย (เอาไว้ทำไมน้า)
ตัวจอสัมผัสตรงกลางนั้นยังมาพร้อมระบบนำทางระบบบริการสตรีมเพลง เช่น Spotify, Amazon Music, Apple Music หรือ TIDAL (ต้องมีบัญชีผู้ใช้) โดยระบบนำทางของตัวรถเองนั้นเป็นแบบ 3 มิติ สเหมือนจริงมาก โดยเฉพาะเวลาดูแม่น้ำ จะเห็นเป็นคลื่น ๆ และมีเรื่อกำลังเคลื่อนที่อยู่อีกด้วย และเมื่อลากไปในจุดที่มีรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ก็จะเห็นตัวหนอนเล็ก ๆ กำลังเคลื่อนที่อยู่มันช่างเหมือนจริงอะไรขนาดนั้น แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นแบบ Realtime หรือไม่ ส่วนการเชื่อมต่อรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมช่อง USB-C บนคอนโซลกลาง 2 ช่อง ชั้นเก็บของใต้คอนโซลกลาง 2 ช่อง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 2 ช่อง และ ด้านหลังบริการใต้ช่องชุดควบคุมแอร์อีก 2 ช่อง กับ HDMI อีก 2 ช่องอีกด้วยครับ พร้อมระบบเสียง Burmester® 3D ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® พร้อม Dolby Atmos®
ถัดมาที่จอซ้ายสุดของผู้โดยสารหน้าหรือเรียกว่า "Co-driving Monitor" ที่สามารถสั่งการแยกอิสระและควบคุมระบบต่าง ๆ ในรถได้เหมือนจอกลางเลย สามารถค้นหาจุดหมายและนำทางได้ เชื่อมต่อระบบสมาร์ทโฟนดูหนังฟังเพลงแยกเป็นส่วนตัวได้ แต่จะต้องมีคนนั่งบนเบาะเท่านั้นจึงจะใช้งานได้ (คงจะป้องกันอันตรายจากคนขับไปกดเล่น) และยังไม่พอครับ!ที่นั่งตอนหลังก็ยังมีจอแยกอิสระอีกฝั่งซ้ายและขวา รวมทั้งหมดใน EQS คันนี้ก็ 5 จอเลยทีเดียวครับ
ระบบดูดอากาศที่ต้องกด "ปิดระบบดูดอากาศภายนอก" ทุกครั้งที่สตาร์ทและทุก ๆ 30 นาที เหตุเพราะทางเบนซ์เยอรมันกลัวอากาศหายใจจะเบาบางลงจึงช่วยเติมออกซิเจนเข้ารถ (แต่ในไทยคงเจอควันพิษไม่ไหว) แม้จะมีระบบกรองไอเสีย PM2.5 แล้วก็ตาม โดยชุดควบคุมระบบแอร์อยู่ขอบด้านล้างของจอกลาง ใช้งานง่ายกดเล่น 2-3 ครั้งก็คุ้นเคยแล้ว และสามารถแยกปรับโซนด้านหน้า แบบอิสระซ้าย-ขวา และแยกปรับโซนหลังได้ รวมเป็น 4 โซน กลับมาที่คอนโซลกลางมีที่วางโทรศัพท์และแท่นชาร์จไร้สาย ที่เท้าแขนพร้อมกล่องเก็บของและมีชั้นวางของด้านล่างอีกด้วย แต่ที่วางแก้วน้ำด้านหน้ามีเพียง 2 ตำแหน่งและเมื่อวางแก้วใหญ่กลับใช้งานหน้าจอลำบากไปสักหน่อย
ระบบหลังคาแก้ว 2 ตอนแยกหน้า-หลัง ด้านหน้าเปิดได้ พร้อมกับแผ่นกรองแสงบาง ๆ ซึ่งสั่งงานเปิด-ปิดได้ด้วยการใช้ "มือปัดไปด้านหลังเพื่อเปิดหรือปัดมาด้านหน้าเพื่อปิดได้ ด้านบนที่สวิตช์ไฟส่องแผ่นที่ต้องบอกว่าหากไม่มีคนนั่ง เมื่อเอามือไปหยิบสิ่งของบริเวณที่นั่ง ไฟจะติดขึ้นเองแบบระบบจับการเคลื่อนไหว! ช่วยให้มองเห็นง่ายขึ้นในเวลากลางคืนไม่ต้องควานหาปุ่มเปิดไฟเองนับว่าสะดวกสบายมากขึ้น เบาะคู่หน้าที่ปรับได้หลายรูปแบบ โดยส่วนตัวแล้วแอบไม่ค่อยชอบเพราะนั่งไม่สบายตัวเท่าไหร่ อาจเพราะความตึงหรือแข็งของผิวหนังที่กระชับและแน่นกับลำตัวเกินไป ท่านั่งที่ถูกดันหลังจนหลังแอ่นแม้ปรับตัวดันหลังให้เรียบสุดแล้วก็ตาม
ที่นั่งตอนหลังใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางสมตัวกับ S-Class แต่ที่พิงหลังตั้งชันมากไป หากเอนหรือปรับองศาไปอีกนิดน่าจะนั่งสบายมากขึ้น ส่วนตัวมองว่า EQS คันนี้ อาจจะเน้นให้เป็นผู้ขับขี่เองหรือนั่งตอนหน้าเป็นหลัก เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ส่วนตอนหลังเน้นมีคนร่วมเดินทางมากกว่าเน้นนั่งสบาย ๆ ซึ่งจะแตกต่างกับใน S-Class รุ่นปกติที่ด้านหลังจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าและนั่งเหมือนคฤหาสน์เคลื่อนที่เลยครับ
ตัวใหญ่แต่แรงคล่องตัวและเลี้ยว 4 ล้อ
สมรรถนะของพละงมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 449 แรงม้า แรงบิดระดับ 828 นิวตันเมตร มาแบบไม่รอรอบไม่ต้องลุ้น คตอบสนองได้ทันใจและแรงเอาเรื่อง แม้จะคันใหญ่โตระดับนี้แต่ก็สามารถเร่งออกตัว แซงหรือจะเข้าโค้งยาว ๆ ได้อย่างมั่นใจ ระบบช่วงล่างแบบถุงลมหากปรับโหมด Comfort ก็จะเน้นความนุ่มนวลดั่งพรม แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพราะนุ่มเกินไป จึงปรับไปที่ Sport หรือ individual ที่สามารถตั้งค่าช่วงล่าง Sort และปรับน้ำหนักพวงมาลัยเป็น Comfort ยิ่งทำให้ขับขี่สบายในทุกสภาพถนน ไม่ต้องกลัวใต้ท้องจะกระแทรกจากโช้คยวบเวลาขึ้น-ลงเนินสูง ๆ
ในความเร็วต่ำเมื่อต้องการจอด เลี้ยวทางแคบ ๆ สามารถทำได้สบายแม้ตัวรถจะยาวกว่า 5 เมตรด้วยระบบบังขับเลี้ยว 4 ล้อ ทำให้มีวงเลี้ยวที่แคบมาก ๆ เรียกว่าใช้พื้นที่ 3 เลนก็กลับรถได้ หรือการเลี้ยวเข้าทางแคบ ๆ เล็ก ก็คล่องตัวมากอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนที่ความเร็วสูง ๆ ก็จะปรับองศาการเลี้ยวในทิศทางเดียวกับล้อหน้าเมื่อเปลี่ยนช่องทาง ทำให้มั่นใจในการขับขี่ และระบบช่วงล่างยังปรับสูง-ต่ำได้อีกกว่า 10 ซม. ด้วยระบบกันสะเทือนด้วยถุงลม AIRMATIC ให้ความสบายในการขับขี่ที่โดดเด่นแม้บนพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบ ระดับของรถจะแตกต่างกันไปตามความเร็ว ระบบดังกล่าวสามารถเพิ่มระยะทางที่ขับต่อได้เมื่อขับรถด้วยความเร็ว ใช้งานสะดวก ระบบควบคุมระดับตัวถังรถแบบอัตโนมัติขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก แม้จะเป็นรถคันใหญ่ และยาว และก็ไม่ลำบากนักเวลาขับขี่ในตัวเมือง เว้นแต่เจอทางแคบ ๆ มาก ๆ อาจจะต้องระวังสักหน่อยเพราะตัวรถมีความกว้างพอสมควรหรืออาจจะกว้างพอ ๆ กับรุ่น GLE
อัตราเร่งออกตัวและเร่งแซงนับว่าแรงสะใจ แต่การควบคันเร่งอาจจะต้องปรับตัวระยะนึงเพราะมีความแข็ง ต้องใช้แรงในการกดคันเร่งลงครั้งแรก หากกะน้ำหนักไม่ดี อาจจะพุ่งพรวดไปเลย ส่วนแป้นเบรกจะแข็ง ๆ ตึง ๆ เท้า ต้องใช้น้ำหนักมากพอสมควรในการเหยียบและช่วงกดลงไปช่วงตื้น ๆ จะยังไม่อยู่นักต้องเพิ่มน้ำหนักอีกนิด แต่ว่าระบบการหน่วยความเร็วนั้นก็ยังพอมีช่วยลดความเร็วตามระยะห่างคันหน้า นับว่าปรับตัวไปนานก็เข้าที่เข้าทางและเมื่อคุ้มเคยการขับ EQS คันนี้ก็จะง่ายและคล่องตัวไม่ต่างจากขับรถซีดานระดับกลางเลยครับ
วิสันทัศน์ในการมองเห็นอาจเป็นธรรมดาของรถซีดานขนาดใหญ่หลังคาต่ำสไตล์คู้เป้ ด้านหน้านั้นแม้กระจกบานใหญ่แต่มีความเอียงมากทำให้เหลือช่องในการมองแคบลง เมื่อนั่งสูง ๆ และเปิดบังแดดอาจจะมองถนนได้ไม่เต็มพื้นที่ ส่วนมุมมองด้านหลังก็จะแคบ ๆ และมีมุมเสา "C" ที่บดบังมุมมองด้านหลังไปบ้าง แต่กระจกมองข้างก็พอที่จะมองได้ระยะกว้าง แม้ตัวกระจกเล็แคบก็ตาม ประกอบกับมีระบบช่วยเหลือและเตื่อนมุมอับก็ทำให้ไม่เป็นปัญหาในการขับขี่ด้วยครับ
ความปลอดภัยครบทุกระบบ
ความปลอดภัย EQS 500 4MATIC AMG Premium โดดเด่นด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่าง ๆ มากมาย เช่น Driving Assistance package Plus, Parking Package 360, ระบบควบคุมระยะห่างของรถยนต์ขณะขับขี่แบบแอ็คทีฟ DISTRONIC ระบบควบคุมระยะห่างของรถยนต์ขณะขับขี่ และ ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมดึงกลับ, เตือนก่อนการชนด้านหน้า, เซ็นเซฮร์เตือนรอบคัน, เตือนผู้ขับขี่เมื่อยล้าหรือมีความเป็นไปได้ว่าจะหมดสติ, ระบบควบคุมความเร็วตามคันหน้าพร้อมรักาาระยะห่างและความเร็ว พร้อมควบคุมรถให้อยู่ในเลนและเลี้ยวตามโค้งได้ด้วยและแสดงภาพด้านหน้าและสัญญาณไฟจราจรเมื่อจอดติดแยกไฟแดง นับว่าเป็นระบบที่ได้งานได้ในทุกวันและช่วยเหลือการขับขราได้อย่างดีเลยครับ
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดแบบแอ็คทีฟพร้อม PARKTRONIC ระบบสามารถตรวจจับที่จอดรถที่เหมาะสมและช่วยเหลือระหว่างการจอดรถแบบเดินหน้าและถอยหลังเข้าในช่องจอดรถ ด้วยการบังคับพวงมาลัยให้คุณ ระบบช่วยนำรถเข้าจอด PARKTRONICยังตรวจสอบสภาพแวดล้อมในขณะบังคับเลี้ยว เช่น ในอาคารจอดรถ ระบบจะแจ้งเตือนคุณทั้งทางภาพและเสียงให้ทราบถึงสิ่งกีดขวางที่ตรวจพบ
สรุปความคุ้มค่า 7 ล้าน!
Mercedes-EQS 500 4MATIC AMG Premium รถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการซื้อ "เทคโนโลยี" ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ขับเองเดินทางพร้อมครอบครัวและต้องการรถขนาดใหญ่ทันสมัยเทคโนโลยีครบ แต่ไม่ทิ้งความหรูหราในระดับเทียบเท่า S-Class พร้อมสมรรถนะและระบบการขับขี่ที่สนุกสนาน ด้วยความแรงและเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระยะทางที่วิ่งได้มากที่สุดในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ทำให้ EQS คันนี้นับเป็นตัวเลือกที่ได้ทั้งหรูหราพรีเมี่ยม ขับสนุก วิ่งได้ไกลหมดกังวลอีกด้วย แม้ช่วงระยะแรกจะเปิดตัวที่ราคาสูงจนอาจดึงดูดใจนัก แต่ปัจจุบันมีการปรับลดลงมาทำให้กลายเป็นรถอีกรุ่นในค่ายดาวที่ควรมีไว้ครอบครอบสักครั้งหนึ่งเลยครับ
EQS 500 4MATIC AMG Premium ราคาพิเศษ 6,200,000 บาท (จากราคาแนะนำ 7,200,000 บาท) หรือเริ่มต้นเพียง 77,000 บาท/เดือน ระยะเวลา 3 ปี พร้อมเอกสิทธิ์ข้อเสนอขยายระยะเวลาเช่าชำระนานอีก 2 ปี หรือค่างวดเพียง 60,000 บาท/เดือน เมื่อทำสัญญามายสตาร์(1)
ฟรี! โปรแกรมครอบคลุมการบำรุงรักษา MBSP Easy Care นาน 5 ปี ‘ไม่จำกัดระยะทาง’(2)
ฟรี! โปรแกรมขยายเวลาการรับประกันคุณภาพรถยนต์ (MBSP Extra Guarantee) นาน 5 ปี ‘ไม่จำกัดระยะทาง’(2)
ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นานสูงสุด 2 ปี(3)
เงื่อนไข
ข้อเสนอพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าที่รับมอบรถยนต์ระหว่างวันที่ 7 สิงหาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2567
(1)เมื่อทำสัญญามายสตาร์กับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด โดยค่าเช่ามายสตาร์ข้างต้นอ้างอิงจากค่าเช่าชำระครั้งแรก 20% คำนวณจากราคารถยนต์หลังหักส่วนลด โดยเงื่อนไขการใช้สิทธิ์เลือกทางเลือก 3R เมื่อครบกำหนดสิ้นสุดสัญญามายสตาร์ เป็นไปตามที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนดในสัญญาเท่านั้น
(2)เงื่อนไขโปรแกรมครอบคลุมการบำรุงรักษา MBSP Easy Care และโปรแกรมขยายเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ (MBSP Extra Guarantee) เป็นไปตามที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด
(3)ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection – Standard Plus เริ่มต้น 1 ปี มูลค่า 127,600 บาท รับประกันภัยโดยบริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน)