ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลือกซื้อมาทานอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์ เพราะมีวางขายหลายยี่ห้อ เต็มไปหมด แล้วอย่างนี้ จะรู้ได้อย่างไรว่า ได้ผลจริง ไม่หลอกลวง ยิ่งในปัจจุบัน การตลาดผ่านโซเชี่ยลมีเดีย มีอิทธิพลมาก เพียงแค่ใช้อินฟลูเอนเซอร์กับรีวิวโชว์ผลลัพธ์นิดหน่อย คนก็แห่กันซื้อรัว ๆ ใครเลยจะอดใจไหว
ฉะนั้น หากใครไม่อยากตกเป็นเหยื่อของการตลาด อยากซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ดีต่อสุขภาพจริง ๆ แล้วละก็มีเคล็ดลับมาแนะนำ รับรองว่านับต่อจากนี้ คุณจะสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีแต่คุณภาพ ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเจอของแพง แต่คุณภาพไม่ตรงปกได้อย่างแน่นอน ถ้าใครอยากรู้ว่า มีเคล็ดลับอะไรบ้าง ก็ตามมาดูกันเลย
จำเป็นมั้ยต้องซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ?
ก่อนจะซื้อ ควรถามตัวเองก่อนว่า จำเป็นมั้ยต้องซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะหากคุณเป็นคนที่ทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย นอนหลับเพียงพอ การซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาจไม่มีความจำเป็นมากนัก ในทางตรงกันข้าม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่แม้กินอาหาร 3 มื้อ แต่ไม่ชอบกินผักและผลไม้ ทำให้ไม่ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น นอนพักผ่อนก็ไม่เพียงพอ จนร่างกายรู้สึกอ่อนแอ การทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ก็อาจมีความจำเป็น เพื่อเพิ่มเติมสารอาหารที่ร่างกายขาดหายไป
อย่างไรก็ตาม หากเป็นผู้ที่ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อต้องการลดความอ้วน หรือ ทำให้ตัวเองผิวขาวขึ้น การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ควรเป็นตัวเลือกแรก แต่ควรเลือกทานอาหารทั่วไปที่มีประโยชน์ก่อน เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อจุดประสงค์เหล่านี้ มักมีการใช้สารต้องห้ามเป็นส่วนผสมเช่น ยาลดความอ้วน ซึ่งอาจมีสารบางอย่างเช่น ซิบูทรามีน ที่ทำให้มีฤทธิ์กดประสาท ความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า อยู่ภายใน ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
ซึ่งหากยังต้องการที่จะบริโภคต่อไป ก็ควรพิจารณาดูให้ดีก่อนว่ามีความน่าเชื่อถือ มีส่วนผสมที่ปลอดภัย ใช้แล้วได้ผลจริงหรือไม่ เพราะแม้มีรีวิวที่แสดงถึงผลลัพธ์จริงมากมาย แต่การรับประทานอาหารเสริมเหล่านี้ ก็ยังเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ผู้บริโภคอย่างเราจึงต้องรู้จักเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ปลอดภัยมากที่สุด เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องตกเป็นของเหยื่อของผู้ผลิต ที่มุ่งหวังค้ากำไรจากการทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่างไรให้ปลอดภัย
การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรพิจารณาจากมาตรฐานการผลิต ส่วนผสม และความน่าเชื่อถือ เป็นหลัก เพื่อให้ได้ของดี มีคุณภาพมารับประทาน โดยมีหลักในการพิจารณาดังนี้
1. มาตรฐานการผลิต
การมีมาตรฐานการผลิตที่ดี ถือว่าเป็นด่านแรกที่จะคัดกรองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาด เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศเข้มงวดในเรื่องนี้มาก นั่นจึงทำให้หลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการยอมรับ ถึงจะวางจำหน่ายได้ ซึ่งในประเทศไทย การดูว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีมาตรฐานการผลิตหรือไม่ สามารถดูได้จาก
อย.: ย่อมาจาก “สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา” เทียบได้กับมาตรฐาน FDA จากสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration) มีหน้าที่ในการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ส่วนใหญ่มักจะหมายถึง อาหาร ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง ถ้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด มีเครื่องหมาย อย. แสดงว่า มีมาตรฐาน ปลอดภัย และเชื่อถือได้
GMP (Good Manufacturing Practice) คือ เกณฑ์หรือข้อกำหนดขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในการผลิตและควบคุมเพื่อให้ผู้ผลิตปฏิบัติตาม และทำให้สามารถผลิตอาหารเสริมได้อย่างปลอดภัย ครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โครงสร้างอาคาร ระบบการผลิต เพื่อให้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน
HACCP ( Hazard Analysis Critical Control Point ) เป็นระบบที่ใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิต เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเน้นการป้องกันมากกว่าอาศัยผลการทดสอบผลิตภัณฑ์สุดท้ายเป็นหลัก ซึ่งจากการที่เป็นมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ ทำให้หากผลิตภัณฑ์ใดมีเครื่องหมายนี้ จะสามารถส่งออกขายในต่างประเทศได้ด้วย
สัญลักษณ์ฮาลาล (HALAL)คือ ตราที่ติดบนฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นที่ฮาลาล (อนุมัติ) สำหรับมุสลิมใช้บริโภค โดยจะมีคำว่า “ฮาลาล” (อาหรับ: حلال) เป็นภาษาอาหรับประทับอยู่ ผู้ออกตราฮาลาลในประเทศไทยคือคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ใดมีเครื่องหมายนี้ นอกจากสื่อว่าเป็นสินค้าที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามบริโภคได้แล้ว ยังแสดงว่าได้ผ่านกระบวนการการผลิตตามหลักศาสนาทุกประการอีกด้วย
2. ส่วนผสม
ส่วนผสมถือว่าสำคัญมากต่อการพิจารณาว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น ๆ จะมีสรรพคุณตามที่โฆษณาหรืออวดอ้างได้จริงหรือไม่ เพราะสารบางชนิดสามารถส่งผลต่อร่างกาย เมื่อบริโภคเข้าไปได้จริง เช่น ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก หากมีแอล-คาร์นิทีน ซึ่งช่วยเปลี่ยนไขมันในร่างกายให้เป็นพลังงาน หรือ ไคโตซาน ที่ช่วยให้อิ่มเร็ว ก็มีแนวโน้มที่จะช่วยลดน้ำหนักได้จริง
ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยให้ผิวชาว หากมีวิตามิน C เป็นส่วนประกอบ ก็อาจช่วยให้ผิวขาวได้จริง เนื่องจากวิตามิน C จะเข้าไปรบกวน DHICA Oxidation ของเซลล์ผิว ทำให้เมลานินหรือเม็ดสีในผิวไม่เพิ่มขึ้น ที่ดำคล้ำก็ดูจางลง ผิวเลยดูขาว สว่างสดใสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันผิวคล้ำเสียจากแสงแดด รวมถึงยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดีนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องพิจารณาในเรื่องของส่วนผสม ก็คือ สารต้องห้าม เพราะอาจส่งผลให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ดังเช่น ยาลดความอ้วน หากมี ซิบูทรามีน เป็นส่วนประกอบ จะทำให้มีฤทธิ์กดประสาท ความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ ผู้บริโภคจึงควรรู้ถึงส่วนผสมต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ว่า มีอะไรที่ดีและไม่ดีบ้าง เพื่อให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานได้อย่างปลอดภัย
3. ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์
จริง ๆ แล้ว มาตรฐานการผลิตก็สามารถบ่งบอกความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่การจะทำให้คนเชื่อถือในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีผู้ที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักร้อง เข้ามารีวิว บอกกันปากต่อปากด้วย นั่นจึงทำให้หลากหลายแบรนด์ ทำการตลาดผ่านออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย อย่างท่วมท้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นั่นจึงทำให้การสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่ใช่เรื่องยากเลยในปัจจุบัน
การพิจารณาความน่าเชื่อถือ โดยอ้างอิงจากการรีวิวของอินฟลูเอนเซอร์อย่างเดียวจึงไม่พอ ควรดูคอมเม้นต์ รีวิวการใช้งานจากบุคคลทั่วไปร่วมด้วย เพราะถ้าของดีมีคุณภาพจริง ก็จะมีคนเข้ามารีวิวเรื่อย ๆ ในขณะที่ก็ห้ามลืมองค์ประกอบข้างต้น คือ มาตรฐานการผลิตและส่วนผสม เพราะแม้การตลาดจะหลอกเราได้ แต่เรื่องของมาตรฐานการผลิตและส่วนผสม ก็จะช่วยคัดกรองให้เราลดโอกาสเสี่ยงที่จะเจอของคุณภาพแย่ได้ ซึ่งถ้าใครไม่อยากเสี่ยงเลย จะเลือกซื้อแต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความน่าเชื่อถือ ขายมาหลายสิบปีแล้วไปเลยก็ได้ ไม่ว่ากัน
ดู อย. อย่างเดียว ปลอดภัยจริงไหม
ถึงแม้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่วางขายในท้องตลาดจะมีมาตรฐานมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบและเข้มงวดกวดขันกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้การปลอมฉลาก อย. เป็นเรื่องง่ายมาก ๆ ดังนั้น หากผู้บริโภคละเลยเคล็ดลับในการเลือกซื้อทั้ง 3 ข้อ ยึดแต่หลักการมีเครื่องหมาย อย. เป็นสำคัญเพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้พลาดซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มีคุณภาพได้
ดังนั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดดังกล่าว จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตามเคล็ดลับที่นำมาฝาก นั่นคือ พิจารณาคุณภาพผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก มาตรฐานการผลิต ส่วนผสม และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ให้ครบทั้ง 3 ข้อ ก็จะช่วยให้คุณซื้อแต่ของดี มีคุณภาพมาได้ หรือหากสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ผ่าน อย. จริงหรือไม่ สามารถเข้าไปตรวจสอบเลขสารบบอาหารของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเลขใบจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ทางเว็บไซต์ อย.
www.fda.moph.go.th หรือที่ Oryor Smart Application ก็จะช่วยการันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้อีกวิธีหนึ่ง
ข้อควรระวัง สำหรับผู้ที่คิดทาน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
1. ควรทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย
แม้ว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะอุดมไปด้วยวิตามิน กรดอะมิโน กรดไขมัน ที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากได้รับปริมาณมากเกินความจำเป็น อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น วิตามินซี หากร่างกายได้รับเกิน 2000 มิลลิกรัม จะทำให้แสบท้อง และมีความเสี่ยงต่อการเป็นตัวเร่งให้เกิดนิ่วในไตเร็วขึ้น ในขณะที่วิตามินเอ หากรับประทานมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีโรคไต โรคตับได้
จึงควรตรวจสอบตนเองก่อนว่าขาดสารอาหารชนิดใด ก่อนเลือกซื้อ ด้วยการไปตรวจสุขภาพ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือสังเกตตัวเองในแต่ละวัน ว่าทานแล้วได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ จนเมื่อได้คำตอบแล้วว่า ขาดอะไรบ้าง จึงค่อยซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ให้สารอาหารนั้น ๆ ครบถ้วน มาทานในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะทำให้การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอดภัยมากขึ้น
2. ควรอ่านคำเตือนบนผลิตภัณฑ์ทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ
เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาจมีส่วนผสมของสารอาหารบางชนิดในปริมาณมาก ที่อาจส่งผลต่อผู้ที่มีสภาพร่างกายไม่แข็งแรง จึงควรอ่านคำเตือนบนผลิตภัณฑ์ทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากรับประทานเข้าไป เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เป็นต้น
กระชายสกัด: เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่างไรให้ปลอดภัย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/