head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: โลหิตจางเกิดขึ้นเมื่อจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลง  (อ่าน 20 ครั้ง)

jiabonline

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด
โลหิตจางเกิดขึ้นเมื่อจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลง
« เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2024, 15:29:18 น. »
โรคโลหิตจางเกิดขึ้นเมื่อจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลงหรือปริมาณฮีโมโกลบินซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อ อวัยวะลดลง โรคโลหิตจางอาจมีตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง และอาจมีสาเหตุต่างๆ เช่น การขาดสารอาหาร โรคเรื้อรัง และความผิดปกติทางพันธุกรรม
 
อาการหลักอย่างหนึ่งของโรคโลหิตจางคือความอ่อนล้า เนื่องจากเมื่อมีเม็ดเลือดแดงหรือฮีโมโกลบินไม่เพียงพอ เนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆ ของร่างกายก็จะไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและอ่อนแรง อาการอื่นๆ เช่น หายใจถี่ ผิวซีด เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และหัวใจเต้นเร็ว อาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของบุคคลได้อย่างมาก
 
โรคโลหิตจางมีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีสาเหตุที่แตกต่างกัน เช่น
โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุดและเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างฮีโมโกลบิน ดังนั้นหากร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ร่างกายจะไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้เพียงพอ โรคโลหิตจางประเภทนี้อาจเกิดจากการได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอจากอาหาร หรือภาวะที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น โรคซีลิแอค หรือโรคลำไส้อักเสบ
 
โรคโลหิตจางอีกประเภทหนึ่งคือโรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 วิตามินบี 12 จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงที่สมบูรณ์ การขาดวิตามินบี 12 อาจเป็นผลมาจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอหรือปัญหาการดูดซึมอันเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคโครห์นหรือการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ
 
โรคโลหิตจางอาจเกิดจากโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง โรคไต  โรคภูมิต้านทานตนเอง  เช่น โรคไขข้ออักเสบ โรคเหล่านี้อาจส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงโดยตรงหรือโดยอ้อมผ่านกลไกอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เนื้องอกมะเร็งสามารถผลิตสารที่กดการทำงานของไขกระดูก ส่งผลให้การสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง
 
นอกจากโรคโลหิตจางประเภทนี้แล้ว ยังมีโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคเม็ดเลือดรูปเคียวและธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อโครงสร้างหรือการผลิตฮีโมโกลบิน ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงผิดปกติ ผู้ป่วยโรคโลหิตจางประเภทนี้มักมีอาการตั้งแต่อายุน้อย
 
การวินิจฉัยโรคโลหิตจางเริ่มจากการตรวจร่างกายและประวัติการรักษา แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อวัดจำนวนเม็ดเลือดแดง ระดับฮีโมโกลบิน และเครื่องหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคโลหิตจางแต่ละประเภท เมื่อระบุชนิดและสาเหตุของโรคโลหิตจางได้แล้ว ก็สามารถเริ่มการรักษาที่เหมาะสมได้
 
การรักษาโรคโลหิตจางขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง พบแพทย์ตรวจวินิจฉัย และรักษาทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ

โลหิตจาง