head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: การจัดฟันเด็ก โดยไม่ต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบ  (อ่าน 13 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1387
    • ดูรายละเอียด
การจัดฟันเด็ก โดยไม่ต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบ
« เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2025, 22:33:30 น. »
การจัดฟันเด็ก โดยไม่ต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบ

คุณคิดถูกแล้วครับ! การจัดฟันในเด็ก ไม่จำเป็นต้องรอให้ฟันแท้ขึ้นครบทุกซี่ โดยทันตแพทย์จัดฟันส่วนใหญ่แนะนำให้เด็กทุกคนเข้ารับการตรวจประเมินฟันและขากรรไกรครั้งแรกตั้งแต่อายุประมาณ 7 ขวบ หรือเร็วกว่านั้น หากผู้ปกครองสังเกตเห็นความผิดปกติ

แนวคิดนี้เรียกว่า "การจัดฟันระยะที่ 1 (Phase I Orthodontics)" หรือ "การจัดฟันแบบสกัดกั้น/แก้ไขเบื้องต้น (Interceptive Orthodontics)" ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สำคัญของขากรรไกรและพฤติกรรมในช่องปากตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงที่เด็กยังมีฟันน้ำนมปนกับฟันแท้ หรือที่เรียกว่า "ฟันผสม (Mixed Dentition)"

ทำไมถึงไม่ควรรอให้ฟันแท้ขึ้นครบ?
การจัดฟันในเด็กในช่วงที่ฟันแท้ยังขึ้นไม่ครบมีประโยชน์หลายอย่าง เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต และโครงสร้าง
กระดูกขากรรไกรยังคงสามารถปรับเปลี่ยนได้:

นำทางการเจริญเติบโตของขากรรไกร: เป็นโอกาสทองในการแก้ไขความผิดปกติของขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรบนและล่าง (เช่น ขากรรไกรยื่น, ขากรรไกรถอย, ขากรรไกรแคบ) ซึ่งหากปล่อยไว้จนกระดูกหยุดการเจริญเติบโตแล้ว การแก้ไขอาจทำได้ยากขึ้นมากและอาจต้องผ่าตัด
แก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: เช่น การดูดนิ้ว การลิ้นดุนฟัน การหายใจทางปาก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาฟันยื่น ฟันหน้าเปิด หรือขากรรไกรผิดรูป หากไม่แก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ ปัญหาจะยังคงอยู่หรือกลับมาเป็นซ้ำได้
สร้างพื้นที่สำหรับฟันแท้: ช่วยเตรียมพื้นที่ให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมีตำแหน่งที่เหมาะสม ลดปัญหาฟันซ้อนเกหรือฟันขึ้นผิดตำแหน่งอย่างรุนแรง
ลดความซับซ้อนของการรักษาในอนาคต: การแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้การจัดฟันในระยะที่ 2 (เมื่อฟันแท้ขึ้นครบ) ใช้เวลาน้อยลง ง่ายขึ้น หรือในบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องจัดฟันเพิ่มเติมเลย
ป้องกันการบาดเจ็บของฟันหน้า: ในกรณีที่ฟันหน้าบนยื่นมาก อาจเสี่ยงต่อการถูกกระแทกหรือแตกหักได้ง่าย การแก้ไขตั้งแต่ต้นจะช่วยลดความเสี่ยงนี้
ปรับปรุงรูปหน้าและความมั่นใจ: การแก้ไขความผิดปกติของโครงสร้างใบหน้าช่วยให้เด็กมีพัฒนาการของรูปหน้าที่ดีขึ้น และเสริมสร้างความมั่นใจตั้งแต่เด็ก
ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ในการจัดฟันเด็ก (ที่ไม่ต้องรอฟันแท้ขึ้นครบ)

การจัดฟันระยะที่ 1 มักมุ่งเน้นไปที่ปัญหาโครงสร้างและหน้าที่เป็นหลัก ได้แก่:

ขากรรไกรบนยื่นหรือถอย (Class II Malocclusion)
ขากรรไกรล่างยื่น (Class III Malocclusion)
ขากรรไกรแคบ (Narrow Arch) หรือฟันสบไขว้ด้านหลัง (Posterior Crossbite)
ฟันหน้าเปิด (Open Bite) ที่เกิดจากลิ้นดุนฟันหรือดูดนิ้ว
ฟันสบไขว้ด้านหน้า (Anterior Crossbite)
ฟันซ้อนเกรุนแรง ที่มีแนวโน้มจะไม่มีพื้นที่พอให้ฟันแท้ขึ้น
การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด ทำให้ฟันข้างเคียงล้มเข้ามาปิดช่องว่าง
พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การดูดนิ้ว, ลิ้นดุนฟัน, การหายใจทางปาก
ประเภทของเครื่องมือจัดฟันที่ใช้ในเด็กที่ฟันแท้ยังขึ้นไม่ครบ
เครื่องมือที่ใช้มักเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นหรือปรับทิศทางการเจริญเติบโตของขากรรไกร รวมถึงแก้ไขพฤติกรรม:

เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ (Removable Appliances):
EF Line (Functional Education): เน้นการปรับสมดุลการทำงานของกล้ามเนื้อรอบปากและลิ้น เพื่อนำทางการเจริญเติบโตของขากรรไกร และแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ลิ้นดุนฟัน, หายใจทางปาก
Functional Appliances (เช่น Twin Block, Bionator): เป็นเครื่องมือที่ใช้กระตุ้นหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกร เพื่อปรับความสัมพันธ์ของขากรรไกรบนและล่าง
เครื่องมือขยายเพดานปาก (Palatal Expander): ใช้สำหรับขยายขากรรไกรบนที่แคบ ทำให้มีพื้นที่สำหรับฟัน และแก้ไขฟันสบไขว้ด้านหลัง
Space Maintainer: ใช้ในกรณีที่ฟันน้ำนมหลุดก่อนเวลา เพื่อรักษาช่องว่างให้ฟันแท้มีที่ขึ้น

เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นบางส่วน (Partial Fixed Appliances):
บางครั้งอาจมีการติด Brackets (เหล็กจัดฟัน) เฉพาะบางซี่ของฟันแท้ที่ขึ้นมาแล้ว เพื่อเคลื่อนฟันเฉพาะจุด

เครื่องมือภายนอกช่องปาก (Extraoral Appliances):
Headgear: ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาฟันบนยื่น โดยจะช่วยดึงขากรรไกรบนกลับ หรือยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน
Facemask (Reverse-Pull Headgear): ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาฟันล่างยื่น โดยจะช่วยดึงขากรรไกรบนมาข้างหน้า และยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง


เมื่อไหร่ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์จัดฟัน?

ตามคำแนะนำของสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งสหรัฐอเมริกา (American Association of Orthodontists) เด็กทุกคนควรได้รับการตรวจประเมินโดยทันตแพทย์จัดฟัน ไม่เกินอายุ 7 ขวบ แม้จะดูเหมือนว่าฟันยังปกติอยู่ก็ตาม การตรวจแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถประเมินการเจริญเติบโตและพัฒนาการของฟันและขากรรไกร และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดให้บุตรหลานของคุณ

ดังนั้น หากคุณสังเกตเห็นความผิดปกติ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟันและการสบฟันของบุตรหลาน อย่าลังเลที่จะปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันสำหรับเด็กโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ